"วิรัช"ลั่นไม่มีปัญหา พร้อมสู้คดีทุจริตสนามฟุตซอล หลังอัยการสั่งฟ้อง
"อัยการ" สั่งฟ้อง "วิรัช รัตนเศรษฐ" ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทุจริตสร้างสนามฟุตซอล จ.นครราชสีมา ด้าน "เจ้าตัว" ลั่น ไม่มีปัญหาพร้อมสู้คดี ยันไม่เคยแทรกแซงการใช้งบฯ
เมื่อวันที่ 27 พ.ย.63 มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะทำงานร่วมระหว่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กับอัยการสูงสุด (อสส.)มีการประชุมร่วมพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ในคดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย กับพวก กรณีทุจริตเงินจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนในพื้นที่เขตการศึกษาที่ 2 จ.นครราชสีมา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
ทั้งนี้ การประชุมร่วมดังกล่าวได้แจ้งคำสั่งฟ้องของ อัยการสูงสุดให้นายวิรัชกรณีการทุจริตเงินจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอลในพื้นที่เขตการศึกษาที่ 2 จ.นครราชสีมา โดยฝ่ายอัยการจะใช้เวลาเพื่อร่างคำฟ้องดังกล่าว ประมาณ 60 วัน ก่อนจะยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป
ด้าน นายวิรัช กล่าวว่า ไม่มีปัญหาปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนขอปฏิเสธไม่เคยเข้าไปแทรกแซงการใช้งบประมาณ โดยจะชี้แจงข้อเท็จจริงรวมไปถึงแนวทางการสู้คดีในเร็ว ๆ นี้
สำหรับคดีทุจริตจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนในพื้นที่เขตการศึกษาที่ 2 จ.นครราชสีมา นั้น ตามสำนวนการไต่สวนของ ป.ป.ช.ระบุว่า ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งประกอบด้วยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการระดับสูง และกลุ่มเอกชน มีพฤติการณ์ร่วมกันทุจริตเชิงนโยบาย และเป็นตัวการร่วมกันในลักษณะการแบ่งหน้าที่กันทำ ตามบทบาทหน้าที่และอำนาจที่แต่ละคนมี และเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการกระทำความผิด โดยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ และเอกชนร่วมดำเนินการอย่างเป็นระบบและเป็นกระบวนการโดยทุจริต เริ่มจากขั้นตอนการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบประมาณปี พ.ศ.2555 (งบแปรญัตติ) ให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาใน จ.นครราชสีมา และจังหวัดอื่น รวม 18 จังหวัด วงเงินประมาณ 4,459,420,000 บาท ใน 2 โครงการหลัก หนึ่งในนั้นคือ โครงการก่อสร้างสนามกีฬาฟุตซอล รวมถึงมีการวางแผนในการทุจริตในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างอีกหลายประการ เพื่อให้กลุ่มเอกชนที่เป็นพรรคพวกของตนเองได้เข้าเป็นคู่สัญญา และการก่อสร้างสนามกีฬาฟุตซอลไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริงตรงตามวัตถุประสงค์ โดยมีการชี้มูลการกระทำผิด 7 สำนวน อสส.มีคำสั่งฟ้องไป 1 สำนวน ส่วนสำนวนที่เหลืออยู่ระหว่างการพิจารณาของ อสส.


