posttoday

โฆษกรัฐบาลแจง"ฮ.บินต่ำ"ในกทม.เป็นภารกิจความมั่นคงไม่เกี่ยวรัฐประหาร

24 พฤศจิกายน 2563

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแจงเฮลิคอปเตอร์บินต่ำในหลายพื้นที่ของ กทม.เมื่อค่ำคืน23พ.ย. เป็นภารกิจทางด้านความมั่นคงอื่น ที่ไม่เกี่ยวกับการรัฐประหารหรือการชุมนุม

เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2563 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าการที่ เฮลิคอปเตอร์บินต่ำในหลายพื้นที่ของ กทม.รวมถึงบริเวณทำเนียบรัฐบาล เมื่อคืนวันที่23พ.ย.ว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการป้องกันม็อบหรือรัฐประหาร ซึ่งตำรวจได้ชี้แจงในวงประชุมของหน่วยงานความมั่นคงเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า เป็นภารกิจทางด้านความมั่นคงอื่น ที่ไม่เกี่ยวกับการชุมนุมเลย 

ทั้งนี้การชุมนุมของม็อบราษฎร ในวันที่ 25 พ.ย.นั้น สิ่งที่รัฐบาลกังวลคืออาจจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นได้ หากผู้ชุมนุมไม่ได้ดำเนินการตามที่ตำรวจตักเตือนเอาไว้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาตำรวจได้มีการเตือนอยู่เป็นระยะๆ ว่าอะไรทำได้ไม่ได้ และในวันพรุ่งนี้การชุมนุมที่จะไปที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ตำรวจต้องการสื่อสารให้ทราบว่า ขอความร่วมมือผู้ชุมนุมไม่ให้รุกล้ำเข้าไปในพื้นที่

ขณะเดียวกันอยากให้ภาพรวมเป็นไปด้วยความสงบ เพราะเห็นจากการชุมนุมในช่วงที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นหน้ารัฐสภา หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเห็นว่าผู้ชุมนุมได้กระทำการหลายส่วนที่อาจเรียกว่าผิดกฎหมายอย่างชัดเจน และมีการทำร้าย ทำลายทรัพย์สินในส่วนราชการและเอกชนไม่ว่าจะเรื่องสาดสีเข้าไปในพื้นที่ หรือพ่นสีสเปรย์ด้วยข้อความที่ไม่เหมาะสม จึงอยากเรียนให้ทราบว่าการชุมนุมครั้งต่อ ๆ ไป ต้องเคารพกฎหมายหากชุมนุมโดยสงบย่อมทำได้ แต่ถ้ามีการกระทำที่ผิดกฎหมาย รัฐบาลและตำรวจต้องดำเนินคดี ทั้งนี้ไทยอยู่ในหลักนิติรัฐ นิติธรรม การที่ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า หลีกเลี่ยงการปะทะ

"นายกรัฐมนตรีแถลงการณ์ไปแล้วว่าจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ฉะนั้นจะมาตราใดหรือฉบับใด เข้าใจว่าตำรวจได้ตักเตือนอยู่เป็นระยะ ขอให้หลีกเลี่ยงการกระทำผิด ให้ความร่วมมือกับตำรวจ" นายอนุชา กล่าว

นายอนุชา ยังกล่าวถึงการปฏิบัติงานในทำเนียบรัฐบาลวันที่ 25 พ.ย.ที่จะมีการชุมนุมของม็อบราษฎร ว่า ข้าราชการทำเนียบรัฐบาลยังคงทำงานตามปกติ รวมถึง นายกรับมนตรีก็จะเข้าร่วมประชุมสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (US- ASEAN Business Council: USABC) ตามกำหนดการเดิม ซึ่งมีการเข้าพบกันเป็นประจำทุกปี โดยครั้งนี้เป็นการประชุมกึ่งออนไลน์ เจ้าหน้าที่บางส่วนจะเดินทางมาร่วมประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล รวมถึงเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย นอกจากนั้นยังมีบางส่วนจะวีดีโอคอนเฟอเรนซ์จากสหรัฐอเมริกาด้วย โดยในภาพรวมเป็นการประชุมของผู้บริหาร ผู้แทนภาคเอกชน จำนวน 38 บริษัท 8 กลุ่มอุตสาหกรรม รวม 89 คน นอกจากนี้คณะทำงานยังมีกำหนดการเข้าเยี่ยมคาราวะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอีกด้วย