posttoday

ไทยภักดี ยอมรับมติสภาร่วม ชวนจับตาห้ามยุ่ง 5 ประเด็นไม่ให้นายทุนครอบงำการเมือง

19 พฤศจิกายน 2563

กลุ่มไทยภักดี ออกแถลงการณ์ยอมรับมติสภาร่วม ย้ำช่วยกันจับตาที่มา ส.ส.ร.และ 5 ประเด็นไม่ให้นายทุนครอบงำการเมือง

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี ออกประกาศแถลงการณ์ของกลุ่มฯ ยอมรับผลการลงมติของ ส.ส.และ ส.ว. วานนี้ ซึ่งที่ประชุมสภาร่วมรับหลักการวาระร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 และฉบับที่ 2 จาก 7 ฉบับ พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมาธิการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เพื่อดำเนินการต่อไป ดังนี้

ตามที่สมาชิกรัฐสภาลงมติเห็นชอบวาระแรก ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ของส.ส.ฝ่ายค้านและส.ส.ฝ่ายรัฐบาลรวม 2 ร่าง นำไปสู่การตั้งส.ส.ร. เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ แม้กลุ่มไทยภักดีจะไม่เห็นด้วย แต่เคารพการตัดสินใจของสมาชิกรัฐสภา

สิ่งที่กลุ่มไทยภักดี ได้ดำเนินการต่อไป และเชิญชวนพี่น้องประชาชน 16.8 ล้านเสียง ติดตามนั่นคือ เราได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ร้องผ่านอัยการสูงสุด เพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ระงับยับยั้ง การกระทำของรัฐสภา เพราะเราถือว่า การยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับนั้น ถือว่ากลไกทางการเมือง องค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญ ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ต้องถูกยกเลิกไป เข้าข่ายการล้มล้างการปกครอง

ขณะเดียวกัน ถ้าผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ให้โอกาสมีการตั้งส.ส.ร.ได้ แม้จะไม่มีการแตะต้องมาตราที่เกี่ยวกับพระราชอำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์ กลุ่มไทยภักดีขอให้พี่น้องจับตาที่มาของส.ส.ร. และพวกเราต้องช่วยกันติดตาม ประเด็นสำคัญของการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ นั่นคือประเด็นที่ทุนสามานย์จะเข้ามาครอบงำระบบการเมืองนั่นคือ

1.ต้องไม่มีการเปลี่ยนแปลงระบบเลือกตั้งส.ส.จากบัตรใบเดียว เพราะถ้ามีการเปลี่ยนแปลงไปสู่บัตรสองใบตามรัฐธรรมนูญ 2540 หรือ 2550 ทุนสามานย์และเงิน ที่ครอบงำพรรคการเมืองจะฟื้นมีพลังอำนาจมากขึ้นมาทันที และนำไปสู่ปัญหาทางการเมืองเหมือนในอดีต

2.ต้องไม่มีการเปลี่ยนแปลงการคัดเลือกส.ว.ตามระบบใหม่ของรัฐธรรมนูญ 2560 นั่นคือให้ส.ว.คัดเลือกจากประชาชนกลุ่มอาชีพ เพราะถ้ายอมแก้ไขให้ส.ว.คัดเลือกจากจังหวัดต่างๆเหมือนเดิม ส.ว.ก็อาศัยฐานเสียงพรรคการเมือง จะทำให้ส.ว.อยู่ภายใต้บงการพรรคการเมือง นำไปสู่เผด็จการรัฐสภา

3.ต้องไม่มีการแก้ไขรายละเอียดการปราบโกง ทั้งที่อยู่ในรัฐธรรมนูญ 2560 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ

4.ต้องไม่มีการแก้ไขมาตราเรื่องงบประมาณ ที่นำไปสู่การแทรกแซง ให้มีงบส.ส.

5.ต้องไม่มีการแก้ไข เพื่อนิรโทษกรรม คดีทุจริต คดีถูกตัดสิทธ์การเมือง ของนักการเมืองที่ถูกลงโทษไปแล้ว

ที่กล่าวมาคือสาระสำคัญของอนาคตประเทศประเทศ ที่พี่น้องประชาชนต้องช่วยกันจับตา ติดตาม เพราะนี่คือความพยายามของกลุ่มทุนสามานย์ กลุ่มทุนล้มเจ้า(ทั้งในและนอกประเทศ) ที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

กลุ่มไทยภักดี 19 พ.ย. 2563