posttoday

"บิ๊กตู่"ถก ศบค. จับตาต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน 45 วัน - ข้อเสนอลดวันกักตัว

18 พฤศจิกายน 2563

นายกฯ นำถกศบค. จับตาเห็นชอบขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อีก 45 วัน รับทราบข้อมูลด้านสาธารณสุข ลดกักตัว เหลือ10 วัน ยังไม่ตอบเหตุปะทะม็อบ 2 ฝ่ายหน้าสภา

เมื่อวันที่ 18 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยมีรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยก่อนการประชุมนายกรัฐมนตรี มีสีหน้าเรียบเฉย ซึ่งยังไม่ได้แสดงท่าทีเกี่ยวกับการเหตุการณ์สลายการชุมนุม และเหตุปะทะกัน ระหว่าง 2 กลุ่มที่หน้ารัฐสภาวานนี้ (17 พ.ย.) แต่อย่างใด

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวช่วงต้นการประชุมว่า การป้องกันการแพร่ระบาดโควิด- 19 ต้องไม่ประมาท คำนึงถึงด้านสาธารณสุข และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ควบคู่ไปด้วยกัน

ทั้งนี้ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ จะมีการเสนอข้อมูลทางด้านสาธารณสุข เพื่อพิจารณาลดมาตรการในการกักตัว จาก 14 วัน เหลือ 10 วัน ขณะเดียวกันจะรับทราบความคืบหน้าการศึกษาวิจัยวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในประเทศไทย ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลองในสัตว์ ยังไม่ได้ทดลองในมนุษย์ รวมถึงความร่วมมือระหว่างประเทศที่ล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบกลาง 6,049 ล้านบาท ให้กระทรวงสาธารณสุขสั่งจองวัคซีนโควิด-19 จากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 26 ล้านโดส รวมถึงจะเสนอขยายเวลาการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปอีก 45 วัน เพื่อเป็นกลไกในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ต่อเนื่องไปจนถึงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเดิม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะครบกำหนดในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ดังนั้น หากต่อออกไปอีก 45 วัน จะสิ้นสุด 15 ม.ค. 2564 ซึ่งหากที่ประชุม ศบค.เห็นชอบ ก็จะเสนอเข้าที่ประชุม ครม.สัปดาห์หน้า นอกจากนี้ที่ประชุมจะรับทราบแนวทางการจัดการแข่งขันกีฬานานาชาติ

ส่วนในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)