posttoday

"โรม" รับร่างไอลอว์ผ่านยาก "จอน" เชื่อถูกสภาตีตก

18 พฤศจิกายน 2563

ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล รับร่างไอลอว์ผ่านยาก วอนฝ่ายรัฐบาล - ส.ว. ช่วยเอาฟืนออกกองเพลิง ด้าน "จอน อึ๊งภากรณ์"เชื่อ ร่างไอลอว์ ถูกสภาตีตกอยู่แล้ว ชี้ ถ้าสภาส่วนหนึ่งไม่ตื่นตัวจะทำสถานการณ์ในอนาคตแย่กว่านี้

เมื่อวันที่ 18 พ.ย.63 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า จากที่รับฟังการอภิปรายที่ผ่านมาทั้งฝ่ายรัฐบาลและส.ว.ค่อนข้างขัดเจนว่าร่างของประชาชนหรือไอลอว์โอกาสผ่านไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าเป็นแบบนี้โอกาสสุดท้ายที่ฝ่ายค้านพยายามโน้มแนวให้ฝ่ายรัฐบาลและส.ว.จำเป็นต้องรับร่างของประชาชน ซึ่งพรรคก้าวไกลเตรียมอภิปรายในช่วงเช้านี้เหลือ 3 คน มีเวลา 30 นาที โดยจะใช้เวลาที่เหลือนี้ให้เป็นประโยชน์ เพื่อโน้มน้าวและชี้ให้สภาฯเห็นความสำคัญของร่างประชาชน เรารู้ว่ามีข้อถกเถียงหลายอย่างที่มีความกังวลของสมาชิกรัฐสภาว่าถ้ารับร่างของไอลอว์แล้วจะเกิดอะไรขึ้น แต่ยืนยันว่าการรับร่างของประชาชนเป็นส่วนหนึ่งของการเอาฟืนออกจากกองเพลิงที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ หากอยากให้สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้นกว่านี้จำเป็นต้องรับร่างของไอลอว์ ส่วนที่เหลือเป็นกระบวนการหรือเทคนิคทางสภาฯที่จะไปจัดการและหาความลงตัวความกลมกล่อมให้เกิดขึ้นได้

ด้าน นายจอน อึ๊งภากรณ์ ในฐานะผู้แทนภาคประชาชน นำเสนอร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับไอลอว์ กล่าวถึงภาพรวมต่อการชี้แจงในที่ประชุมรัฐสภา วานนี้ ว่า พอใจกับการทำหน้าที่ของ ส.ส. ในสภาส่วนใหญ่ แต่ไม่ค่อยพอใจกับการทำหน้าที่ของ ส.ว. บางคน เพราะมีลักษณะกล่าวหาในทางร้ายกับไอลอว์ เพราะองค์กรของตน ทำในสิ่งที่ถูกต้องโปร่งใส และหากให้เหตุผลไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอ เรายินดีที่จะรับฟัง เพราะเป็นเรื่องของระบอบประชาธิปไตย แต่มาใส่ร้ายกล่าวหาว่าทุจริต อ้างว่าอยู่ใต้การบงการจากแหล่งทุน สิ่งเหล่านี้เป็นการกล่าวหาโดยไม่มีข้อพิสูจน์ ถือว่าไม่เป็นธรรม ส่วนที่มีข้อกล่าวหาของส.ว.ที่ระบุไอลอว์ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากหน่วยงานที่เคยสนับสนุนม็อบฮ่องกงนั้น ยืนยันว่า ไม่ทราบว่าใครให้ทุนกับม็อบฮ่องกง แต่หากเป็นทุนที่สนับสนุนการต่อสู้ประชาธิปไตย สิ่งนี้เป็นเรื่องธรรมดา

นายจอน กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าร่างไอลอว์ ถูกตีตกอยู่แล้ว เชื่ออย่างนั้น และคิดว่า ซีกหนึ่งของสภา ไม่ได้อยู่ในความเป็นจริงของสังคมไทยในปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลง คนรุ่นใหม่กำลังเรียกร้องประชาธิปไตย ถ้าสภาส่วนหนึ่งไม่ตื่นตัวกับเรื่องนี้ จะเป็นเรื่องน่าเศร้า เพราะสถานการณ์ในอนาคตจะแย่กว่านี้