ทนายศูนย์สิทธิฯเยี่ยมไผ่ดาวดินเตรียมยื่นประกัน16ต.ค.63

กลุ่มทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางเข้าเยี่ยม นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” อายุ 29 ปี เเกนนำกลุ่มคณะราษฎร และพวกอีก 19 คน ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษย์ชน กล่าวว่า กลุ่มทนายเข้าเยี่ยมกรณีนายจตุภัทร์ และพวกอีก 21 คนที่ถูกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยหลังจากเข้าเยี่ยมทุกคนมีกำลังใจดี แต่มีนักศึกษาหญิง 2 รายที่ถูกควบคุมตัวที่ทัณฑสถานหญิงกลางมีความกังวลเรื่องการเรียน เนื่องจากมีการสอบเดือนหน้าและต้องทำงานส่งอาจารย์ ซึ่งเด็กสงสัยว่าทำไมศาลไม่ให้ประกันตัว เพราะคดีมีโทษเบาและไม่มีพฤติการณ์ก่อเหตุวุ่นวาย

ทั้งนี้ นายจตุภัทร์ฝากบอกครอบครัวว่าเขายังสู้ และคนข้างนอกแม้จะไม่มีแกนนำก็ขอให้สู้กันต่อไป เพราะมันจะต้องจบที่รุ่นเรา

นายกฤษฎางค์ กล่าวอีกว่า กลุ่มทนายความได้ปรึกษากันว่าจะยื่นขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (16 ต.ค.) โดยได้รับความอนุเคราะห์จากส.ส.และอาจารย์ของกลุ่มนักศึกษาเหล่านี้เสนอช่วยใช้ตำแหน่งในการประกันตัว เพราะผู้ต้องหาบางคนมีความจำเป็นต้องทำงาน เรียน และเล่นดนตรี และปัจจุบันสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงไป รัฐบาลได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน สลายการชุมนุม และสั่งห้ามชุมนุมแล้ว ควรให้โอกาสคนเหล่านี้ออกมาสู้คดี ส่วนกรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่จับกุมแกนนำ 5 คน ประกอบด้วย นายอานนท์ นำภา, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน, นายประสิทธิ์ แสงเย็นพันธุ์, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง และนายณัฐชนน ไพโรจน์ และเยาวชนอีก 23 คน ขณะนี้ทราบว่ามีการแจ้งข้อกล่าวหากับเยาวชนฐานฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กับเยาวชน กรณีนายอานนท์ นำภา และนายประสิทธิ์ถูกนำตัวไปดำเนินคดีที่เชียงใหม่กรณีปราศรัยที่ประตูท่าแพ เราจะประสานทนายศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชนฯ ให้ดำเนินการเรื่องการปล่อยตัวชั่วคราว ส่วนน.ส.ปนัสยา รวมถึงนายณัฐชนน จะถูกนำตัวไปฝากขังต่อศาลธัญญบุรี กรณีการชุมนุมที่ธรรมศาสตร์ เราจะตามไปยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวเช่นกัน

“ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งศาลที่ไม่ให้ประกันตัว เพราะคดีฆาตกรรมหรือคดีทุจริตโกงกิน ศาลยังอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวได้ แต่คดีนี้เด็กแสดงความเห็นอาจไม่ถูกใจรัฐบาล แล้วเรื่องอะไรไปตราหน้าว่าเขาทำผิดถึงขนาดไม่ให้ประกันตัว ดังนั้น พรุ่งนี้จะไปพิสูจน์หลักสิทธิเสรีภาพของเราในการปล่อยชั่วคราวจะได้รับการยืนยันหรือไม่ เพราะทุกคนไม่สบายใจกับคำสั่งของศาลแขวงดุสิตและศาลอาญา จึงคิดว่าต้องยืนหยัดในหลักการว่าการใช้ดุลพินิจตุลาการในการปล่อยชั่วคราวหรือตัดสินคดีต้องมีมาตรฐาน ไม่ขัดกับหลักยุติธรรม ซึ่งเรื่องนี้ EU และองค์กรสิทธิมนุษยชนต่างประเทศสอบถามมาที่ศูนย์ทนายความสิทธิฯ จำนวนมากว่าเหตุใดรัฐบาลใช้กำลังสลายการชุมนุมและศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว” ทนายความศูนย์สิทธิ์ฯ กล่าว

เมื่อถามว่า ในส่วนของคดีจะพิสูจน์ให้ศาลเห็นอย่างไรว่าเราไม่ได้กระทำผิด นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า จากที่ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด ผู้ชุมนุมใช้เสรีภาพตามกรอบรัฐธรรมนูญ เพราะประเด็นที่ต้องการเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย คือเราเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก ซึ่งถือเป็นสิทธิของผู้ปกครองทุกคนที่สามารถแสดงความเห็นได้อยู่แล้ว การแก้รัฐธรรมนูญทุกคนก็ทำอยู่ การปฏิรูปต่างๆ ที่เสนอก็เป็นเรื่องที่เขาปฏิรูปไปตามกฎหมาย แต่หากเห็นว่าข้อเสนอของกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ถูกต้องก็สามารถดำเนินคดีได้ตามมาตราอื่นๆ เช่น โพสข้อความในลักษณะผิดกฎหมายก็มีพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือแสดงความเห็นหมิ่นบุคคล สถาบัน ก็มีความผิดตามกฎหมายเฉพาะอยู่แล้ว ดังนั้น ไม่มีเหตุผลใดที่ต้องสลายการชุมนุม