วอน"ลุงตู่-ลุงป้อม" ส่งสัญญานชัดๆ "เทพไท" แฉ มี ส.ว.ฮาร์ดคอร์ ขวางแก้ รธน.

เมื่อวันที่ 9 ตค. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง ความเคลื่อนไหวของการแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ก่อนรับหลักการ ว่าจากการติดตามผลการประชุมและการแสดงความคิดเห็นของกรรมาธิการในสัดส่วนของสมาชิกวุฒิสภา ที่ได้คัดเลือกสมาชิกวุฒิสภาประเภทฮาร์ดคอร์ หรือประเภทยืนกระต่ายขาเดียว คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เข้ามาเป็นกรรมาธิการชุดนี้จำนวน 10 คนนั้น เป็นการบ่งบอกให้เห็นถึงท่าทีและจุดยืนอย่างชัดว่าสมาชิกวุฒิสภากลุ่มนี้ ไม่ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 และการจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ซึ่งเป็นญัตติทั้งของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่มีหลักการเดียวกัน แสดงให้เห็นว่าสมาชิกวุฒิสภากลุ่มนี้กำลังต่อต้านแนวนโยบายของรัฐบาล ที่ได้แถลงต่อที่ประชุมรัฐสภา เรื่องนโยบายเร่งด่วน ข้อ 12 ที่สนับสนุนให้มีการศึกษาปัญหาและแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุด เมื่อเป็นเช่นนี้ คงมีเพียงสมาชิกวุฒิสภากลุ่มนี้เท่านั้นที่คัดค้าน แต่ยังมีสมาชิกวุฒิสภาอีกส่วนหนึ่งที่พร้อมจะสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามกระแสเรียกร้องของสังคม และมีสมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่ ที่วางตัวเป็นกลาง พร้อมรับฟังความเห็นของทั้งสองฝ่ายเช่นกัน

แต่เมื่อผู้มีอำนาจในรัฐบาลชุดนี้ ทั้งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้แสดงท่าทีเห็นด้วย และต้องการให้สมาชิกรัฐสภา ลงมติรับญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 และการจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ทั้ง2ฉบับ ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีมาก อยากให้สัญญาณนี้ได้ส่งไปยังสมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่แบบชัดๆ ให้เข้าใจถึงความจำเป็น และรับรู้ท่าทีความต้องการของรัฐบาล เพราะสมาชิกวุฒิสภา คือสภาพี่เลี้ยง และมีที่มาจากการแต่งตั้งของผู้มีอำนาจในรัฐบาลชุดนี้ทั้งนั้น ตนจึงมั่นใจว่าถ้ารัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำนวนสมาชิกวุฒิสภา หนึ่งในสามคือ 84คน คงไม่เกินความสามารถของผู้มีอำนาจในรัฐบาลชุดนี้ ที่จะส่งสัญญาณให้มีเสียงสนับสนุนครบตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญได้ไม่ยาก

ถ้าผู้มีอำนาจในรัฐบาล ได้แสดงท่าทีสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้อย่างจริงจัง ก็จะทำให้การเคลื่อนไหวการขุมนุมของภาคประชาชนในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ มีบรรยากาศผ่อนคลาย ลดความตึงเครียดลงไปได้ระดับหนึ่งอย่างแน่นอน