posttoday

นักร้อง"ศรีสุวรรณ"ไล่ล่าท่อน้ำเลี้ยงม็อบไม่หยุดยื่นกรมสรรพากรสอบภาษี11ราย

18 กันยายน 2563

"ศรีสุวรรณ จรรยา"เดินหน้าตรวจสอบท่อน้ำเลี้ยงม็อบนักศึกษายื่นสรรพากรสอบภาษีคนบริจาคเงินช่วยการชุมนุมกลุ่มนักศึกษา

เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2563 ที่กรมสรรพากร นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่ออธิบดีกรมสรรพากร เพื่อขอให้ตรวจสอบการชำระภาษีของบุคคลต่างๆที่เป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับม็อบที่ชุมนุมอย่างผิดกฎหมายที่ผ่านมา และล่าสุดคือกลุ่มที่กำลังจะดำเนินการจัดการชุมนุมสาธารณะขึ้นในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันที่ 19-20 ก.ย.63 เพื่อเรียกร้องให้มีการยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน และร่างรัฐธรรมนูญใหม่ นั้น

แต่เนื่องจากมีบุคคลต่างๆที่ประกาศตัวเป็นท่อน้ำเลี้ยง และกลุ่มผู้จัดงานชุมนุมทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด ได้เปิดบัญชีธนาคารขอรับเงินบริจาค โดยอ้างว่า เพื่อนำไปสนับสนุนการจัดชุมนุมสาธารณะในที่ต่างๆเป็นจำนวนมาก แต่ไม่เคยมีใครรับทราบว่า การเปิดบัญชีรับเงินบริจาคเพื่อนำไปเป็นท่อน้ำเลี้ยงการชุมนุมต่างๆนั้น แต่ละคน แต่ละกลุ่ม แต่ละบัญชี ได้รับเงินบริจาคเข้าบัญชีเป็นจำนวนมากนับแสน นับล้านบาท ทำให้เกิดข่าวเล็ดลอดออกมาจากกลุ่มพวกเดียวกันว่า มีการนำเงินบริจาคไปใช้ส่วนตัว หรือมีการหักหัวคิว โดยไม่มีใครตรวจสอบได้ จนนำไปสู่ช่องทางทำมาหากิน ด้วยการจัดม็อบขึ้นมาเพื่อขอรับเงินบริจาค โดยอ้างประชาธิปไตยบังหน้า เป็นต้น

ทั้งนี้ ผู้ที่ประกาศตัวหรือเจ้าของบัญชีที่เปิดรับเงินบริจาคมาเข้าบัญชีต่าง ๆ เหล่านั้น ทั้งนักธุรกิจ ดารานักแสดง ผู้กำกับภาพยนต์ หรือบางคนแม้จะเป็นนิสิต นักศึกษา ก็ต้องถือว่าเป็นผู้ที่มีรายได้พึงประเมินตามที่กรมสรรพากรกำหนด ตาม ม.40 แห่งประมวลรัษฎากร และไม่ได้รับการยกเว้นตาม ม. 42 หรือการยกเว้นตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 หรือการยกเว้นตามพระราชกฤษฎีกาฉบับต่างๆ แต่อย่างใด ซึ่งจะต้องนำรายได้จากการรับบริจาคตามที่ปรากฎในบัญชีธนาคารดังกล่าวไปคำนวณเป็นฐานภาษีเพื่อชำระภาษีประจำปีของแต่ละคนที่เปิดบัญชีธนาคารดังกล่าวด้วย

แต่ถ้าบุคคลผู้เป็นท่อน้ำเลี้ยงดังกล่าวไม่ชำระในกำหนดเวลาหรือชำระไม่ถูกต้องเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม ถือเป็นบทลงโทษเกี่ยวกับภาษีอากรอย่างหนึ่ง และอาจมีโทษทางอาญาด้วย แล้วแต่ความผิดว่าเป็นเรื่องร้ายแรงขั้นไหน อาทิ กรณีเจตนาละเลยไม่ยื่นแบบแสดงรายการเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร มีโทษปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือหากจงใจ แจ้งข้อความเท็จ หรือแสดงหลักฐานเท็จหรือฉ้อโกง เพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 200,000 บาท

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมฯจึงจะนำรายชื่อผู้ที่เปิดบัญชีธนาคารรับเงินบริจาคเพื่อเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับกลุ่มม็อบต่าง ๆ ทั่วประเทศจำนวน 11 รายชื่อ โดยเฉพาะม็อบที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ เพื่อให้กรมสรรพากร ได้ใช้เป็นข้อมูลในการประเมินภาษีของผู้ถือบัญชีต่าง ๆ เหล่านั้นเพื่อเรียกมาตรวจสอบการเสียภาษีต่อไป