posttoday

คณะก้าวหน้าโคราชอัดแหลกรธน.ปี60เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์

13 กันยายน 2563

นครราชสีมา-คณะก้าวหน้าโคราชจัดเวทีเสวนาอัดแหลก รธน.ปี 60 เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ยันไม่ขวางสมาชิกเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มเยาวชนปลดแอกที่กรุงเทพฯ

เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่โรงแรมโคราชโฮเต็ล จ.นครราชสีมา คณะก้าวหน้า จ.นครราชสีมา ได้จัดเวทีเสวนาหัวข้อ “รัฐธรรมนูญ 60 ต้องแก้ไขหรือเขียนใหม่” โดยมีผู้ร่วมฟังเสวนาประมาณ 100 คน ประกอบไปด้วย สมาชิกคณะก้าวหน้า จ.นครราชสีมา, กลุ่มเยาวชนปลดแอกโคราช, กลุ่มลูกเฟื้องฟ้าไม่เอาเผด็จการ และกลุ่มอดีต นปช.นครราชสีมา โดยถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองฝั่งต่อต้านรัฐบาลในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ก่อนที่จะมีการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเยาวชนในวันที่ 19 ก.ย.ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

ทั้งนี้ มีผู้ร่วมเสวนา 4 คน ได้แก่ นายณัชปกร นามเมือง เจ้าหน้าที่โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ILAW, ผศ.ดร.คธาวุธ พลโคตร อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, นายวรัญญู คงสถิตย์ธรรม กลุ่มเยาวชนปลดแอกโคราช และ น.ส.ภูษณิศา สระพูลทรัพย์ กลุ่มเยาวชนลูกเฟื้องฟ้าไม่เอาเผด็จการ โดยมี นายวรพงศ์ โสมัจฉา อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 1 พรรคอนาคตใหม่ เป็นผู้ดำเนินรายการ

คณะก้าวหน้าโคราชอัดแหลกรธน.ปี60เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์

นายวรัญญู คงสถิตย์ธรรม กลุ่มเยาวชนปลดแอกโคราช กล่าวว่า สาเหตุที่มีเยาวชนออกมาร่วมกลุ่มกันเคลื่อนไหวทางการเมือง ในนามกลุ่มเยาวชนปลดแอก เนื่องจากเขาเหล่านี้ทนต่อสภาพการเมืองที่เน่าเฟะไม่ไหว โดยเฉพาะการบริหารบ้านเมืองที่ล้มเหลวของรัฐบาลปัจจุบัน อย่าลืมว่าเยาวชนทุกวันนี้เขารับรู้ข่าวสารบ้านเมืองไม่น้อยกว่าผู้ใหญ่และเขามีความคิด ความอ่านของตนเอง รู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี ไม่ต้องการให้ใครมาชักจูง เขาต้องการเลือกสิ่งที่ดีเพื่ออนาคต และที่เยาวชนต้องมายุ่งกับการเมือง ก็เพราะการเมืองมีผลต่ออนาคตของพวกเขานั่นเอง ดังนั้นจึงทำให้เกิดการรวมตัวของเยาวชนออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งนี้

ด้านนายณัชปกร นามเมือง เจ้าหน้าที่โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ILAW กล่าวว่า รัฐธรรมนูญปี 60 ถูกร่างขึ้นมาโดยอ้างว่าจะมากอบกู้สิ่งเลวร้ายให้กับประเทศไทย แต่ปรากฏว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ใช้ผ่านมา 2 ปี กลับพบว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ทำให้บ้านเมืองล้าหลังถอยลงคลอง เลวร้ายกว่าทุกยุคในอดีต หลักการร่างรัฐธรรมนูญที่ดีนั้น ควรมีหลักอยู่ 4 ข้อ คือ 1.ต้องสั้น ไม่ต้องลงลึกไปในรายละเอียด ควรเป็นกรอบกว้างๆ 2.ต้องเข้าใจง่าย ประชาชนอ่านแล้วต้องรู้ทันทีเลยว่าสิทธิเสรีภาพของเขาอยู่ตรงไหน อะไรทำได้ ทำไม่ได้บ้าง 3.ต้องยืดหยุ่นได้ พร้อมที่จะรับได้ทุกสถานการณ์ ทั้งบริบททางการเมืองและบริบททางสังคม และ 4.การได้มาซึ่งอำนาจรัฐ ต้องยึดโยงกับประชาชน แต่เมื่อมองดูรัฐธรรมนูญปี 60 กลับพบว่าตรงกันข้ามกับหลักการร่างรัฐธรรมนูญที่ดีทั้งหมดเลย คือทั้งยาว เข้าใจยาก ไม่มีความไม่ยืดหยุ่น และการได้มาซึ่งอำนาจรัฐถูกเขียนล็อกไว้ทุกกลไก โดยเฉพาะหมวดที่มาและอำนาจของ ส.ว. ซึ่งถูกล็อกไว้เพื่อให้รัฐบาลได้อำนาจมา โดยไม่เกี่ยวโยงกับประชาชนเลย ดังนั้นจึงมีการเคลื่อนไหวเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ถูกต้องเหมาะสมกับหลักประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น

ขณะที่ นายสมศักดิ์ บุญเสริฐ แกนนำคณะก้าวหน้าโคราช กล่าวว่า การจัดเวทีเสวนาครั้งนี้ เพื่อเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้มาร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูล ข้อเสนอแนะต่างๆ และนำไปเป็นข้อมูลเสนอให้กับพรรคก้าวไกล เพื่อผลักดันสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีความเหมาะสมกับการพัฒนาประเทศในอนาคต โดยไม่ได้มีเจตนาที่จะไปปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกในสังคม ส่วนการเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลของกลุ่มเยาวชนปลดแอก ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 ก.ย.นี้ทางคณะก้าวหน้าโคราช ก็จะเฝ้าติดตามทางสื่อต่างๆ อย่างใกล้ชิด หากจะมีสมาชิกของคณะก้าวหน้าโคราช เดินทางไปร่วมก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล เราไม่สามารถไปจำกัดสิทธิเสรีภาพของใครได้