posttoday

ร้อง"ดีเอสไอ"ส่งศาลฯเพิกถอนคำสั่งไม่อุทธรณ์คดี"พานทองแท้"

29 กรกฎาคม 2563

อดีตรองโฆษก ปชป.ร้องดีเอสไอส่งศาลปกครอง-ศาลอาญาทุจริตฯ เพิกถอนคำสั่งชี้ขาดความเห็นแย้งคดี"โอ๊ค พานทองแท้"ฟอกเงินแบงก์กรุงไทย ชี้ รองอสส.ไม่มีอำนาจชี้ขาด

เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมายื่นหนังสือถึง พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ เพื่อยื่นคำร้องเพิกถอนคำสั่งชี้ขาดของอัยการสูงสุด กรณีไม่อุทธรณ์คำพิพากษาคดีฟอกเงินปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย ที่มีนายพานทองแท้ ชินวัตร เป็นจำเลย โดยมีพ.ต.อ.อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นผู้รับเรื่อง

นายเชาว์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากคดีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้มีคำพิพากษายกฟ้อง โดยหนึ่งในองค์คณะผู้พิพากษามีความเห็นแย้งให้ลงโทษจำคุกนายพานทองแท้ ต่อมาดีเอสไอทำความเห็นแย้งพนักงานอัยการที่ไม่อุทธรณ์คำพิพากษา เพื่อให้อัยการสูงสุดชี้ขาด แต่ข้อเท็จจริงปรากฎว่า ผู้ที่มีคำสั่งชี้ขาดไม่ยื่นอุทธรณ์ในคดีนี้คือนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด จึงสร้างความกังขาให้กับสังคมอย่างมาก ซึ่งตนเห็นว่าอำนาจในการทำคำสั่งชี้ขาดคดีนี้ของนายเนตร เป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากกฎหมายบัญญัติให้อำนาจการชี้ขาดความเห็นแย้งเป็นอำนาจของอัยการสูงสุด ที่ถือเป็นดุลพินิจเฉพาะตัวเฉพาะตำแหน่งทางกระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะ และไม่อาจมอบอำนาจให้ผู้อื่นทำการแทนได้ แม้จะปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุดก็ตาม

“ประเด็นนี้เป็นข้อกฎหมายสำคัญในเรื่องอำนาจชี้ขาดอุทธรณ์หรือฎีกา ซึ่งควรนำขึ้นสู่ศาลชี้ขาด ดังนั้น ขอให้ดีเอสไอในฐานะพนักสอบสวนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในคดี นำข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายนี้ไปยื่นต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง หรือศาลปกครอง เพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งชี้ขาดไม่อุทธรณ์ของนายเนตร เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานทางกฎหมาย และคดีกลับสู่สถานะเดิมตามกระบวนการกฎหมายที่ถูกต้องชอบธรรมต่อไป” นายเชาว์ กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.อัครพล กล่าวว่า ประเด็นนี้ถือเป็นประเด็นที่สำคัญ โดยกฎหมายก็ให้อำนาจแต่ละองค์กรชัดเจน แต่เมื่อมีผู้มาร้องทุกข์หรือสงสัยในประเด็นใด ดีเอสไอก็พร้อมตรวจสอบรายละเอียดทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎมาย รวมทั้งต้องภารกิจของดีเอสไอด้วยว่ามีอำนาจในการพิจารณาเรื่องนี้หรือไม่