posttoday

ครม.เห็นชอบให้ 4 ธ.ค.ของทุกปีเป็น"วันรู้รักสามัคคี"

12 พฤษภาคม 2563

ครม.เห็นชอบวันที่ 4 ธ.ค.เป็น "วันรู้รักสามัคคี" เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ตระหนักถึงคุณค่านำไปสู่การปฏิบัติด้วยความสามัคคีและส่งเสริมกันให้เกิดความเจริญแก่ประเทศชาติ แต่ไม่ถือว่าเป็นวันหยุดราชการ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.มีมติเห็นชอบให้วันที่ 4 ธ.ค.ของทุกปีเป็น “วันรู้รักสามัคคี” เป็นวันสำคัญของชาติ โดยไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ตระหนักถึงคุณค่า ความสำคัญและนำไปสู่การปฏิบัติด้วยความสามัคคี รู้จักหน้าที่และส่งเสริมกันให้เกิดความเจริญแก่ประเทศชาติ

สำหรับ แนวคิดการกำหนดวันรู้รักสามัคคีปรากฏขึ้นครั้งแรกในกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2534 โดยคำว่า “รู้ รัก สามัคคี” สามารถปรับใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย รู้ คือ การลงมือทำสิ่งใดนั้น จะต้องรู้เสียก่อนรู้ถึงปัจจัยทั้งหมด รู้ถึงปัญหา และรู้วิธีการแก้ปัญหา รัก คือ ความรัก เมื่อเรารู้ครบถ้วนด้วยกระบวนความแล้วจะมีแรงกระตุ้นให้ทำงานด้วยความเต็มใจ และสามัคคี คือ การที่จะลงมือปฏิบัติควรคำนึงถึงเสมอว่าเราจะทำงานคนเดียวไม่ได้ ต้องทำงานร่วมมือร่วมใจ เป็นองค์กร เป็นหมู่คณะ ประกอบกับวันที่ 5 ธ.ค.ของทุกปีเป็นวันชาติ ดังนั้น การกำหนดให้วันที่ 4 ธ.ค.ของทุกปี เป็นวันรู้รักสามัคคี ก็จะสามารถลำดับและดำเนินกิจกรรมได้สอดคล้องให้ตระหนักถึงความสามัคคีนำไปสู่ความเป็นชาติ

ทั้งนี้ การกำหนดให้มีวันรู้รักสามัคคี ดังพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นการเทิดพระเกียรติ น้อมรำลึกและสืบสานพระราชปณิธานของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงห่วงใยประชาชน และแสดงถึงการมีจิตใจเสียสละร่วมกันดำเนินการด้วยความรัก ความสามัคคี