posttoday

ดีเอสไอตั้งคณะทำงานพิจารณาปมอุทธรณ์คดี “พานทองแท้"ฟอกเงินกรุงไทย

16 เมษายน 2563

กรมสอบสวนคดีพิเศษชี้คดีฟอกเงินกรุงไทยซับซ้อนเสนอตั้งคณะทำงาน5คนพิจารณาปมอุทธรณ์ “พานทองแท้"ก่อนส่งอธิบดีดีเอสไอชี้ขาดเห็นแย้งอัยการหรือไม่คาดไม่เกิน 25 เม.ย.

นพ.ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีอัยการคดีศาลสูง มีมติเอกฉันท์ไม่อุทธรณ์คดี นายพานทองแท้ ชินวัตร จำเลยคดีร่วมกันฟอกเงิน10 ล้านบาท ธนาคารกรุงไทยฯ ที่ปล่อยกู้ให้เครือกฤษดามหานครว่า ภายหลังรับสำนวนคดีดังกล่าวคืนจากอัยการ กองบริหารคดีพิเศษได้พิจารณาเบื้องต้นเห็นว่า เป็นคดีที่มีข้อเท็จจริงซับซ้อน เพื่อให้การพิจารณาในชั้นความเห็นแย้งเป็นไปโดยครบถ้วนและรอบคอบ เห็นสมควรพิจารณาในรูปคณะกรรมการ จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นพิจารณาเรื่องดังกล่าว จำนวน 5 คน

ทั้งนี้เพื่อมีความเห็นประกอบการพิจารณาของอธิบดีดีเอสไอ โดยจะเร่งดำเนินการอย่างรอบและจะทำความความเห็นกลับไปยังพนักงานอัยการให้ทันภายในวันที่ 25 เม.ย.นี้ ซึ่งจะครบกำหนดขยายเวลาอุทธรณ์ก็จะดำเนินการในทันที แต่หากไม่เสร็จหรือมีเหตุจำเป็นก็จะต้องมีหนังสือถึงพนักงานอัยการในฐานะโจทก์ เพื่อขอขยายเวลาอุทธรณ์ต่อศาลต่อไป โดยดีเอสไอขอยืนยันว่า การพิจารณาเป็นการดำเนินการในรูปคณะทำงาน มีความโปร่งใส รอบคอบ และเป็นไปตามกฎหมาย

ด้าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ ในรองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า คดีดังกล่าวทาง ปปง. ได้มีหนังสือกล่าวโทษต่อดีเอสไอ ให้ดำเนินคดีอาญากับนางเกศนี จิปิภพ นางกาญจนาภา หงษ์เหิน นายวันชัย หงษ์เหิน และนายพานทองแท้ ชินวัตร รวม 4 คน ในความผิดฐาน สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป ร่วมกันฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน โดยรับเป็นคดีพิเศษที่ 25/2560 โดยทางคดีทำการสอบสวนเสร็จสิ้นและส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการ เมื่อวันที่ 26 ก.ค.61 ต่อมาพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เมื่อวันที่ 25 พ.ย.62 ซึ่งศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง

จากนั้น พนักงานอัยการ ในฐานะโจทก์ ได้ขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์คำพิพากษา จำนวน 4 ครั้ง ประกอบด้วย ครั้งที่ 1 ศาลอนุญาตถึงวันที่ 19 ธ.ค.62 ครั้งที่ 2 ศาลอนุญาตถึงวันที่ 25 ก.พ.63 ครั้งที่ 3 ศาลอนุญาตถึงวันที่ 19 มี.ค.63 ต่อมาพนักงานอัยการมีคำสั่งไม่อุทธรณ์ และส่งสำนวนให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมความเห็นไม่อุทธรณ์คำพิพากษามายังอธิบดีดีเอสไอเมื่อวันที่ 26 มี.ค. เพื่อพิจารณาว่าจะมีความเห็นแย้งหรือไม่ ซึ่งพนักงานอัยการได้ขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์คำพิพากษา เป็นครั้งที่ 4 ศาลอนุญาตถึงวันที่ 25 เม.ย.63