posttoday

"เทพไท" ขอบคุณ "ณัฏฐพล" เบรคแนวคิดแจกแท็บเล็ต-หนุนแจก5พันให้เด็กดีกว่า

13 เมษายน 2563

เทพไท ขอบคุณ รมว.ศึกษา ที่เลิกแนวคิดแจกแท็บเล็ตให้นักเรียน เสนอรัฐบาลแจก 5พันนักเรียนสายสามัญ-อาชีวะและช่วยผู้ปกครองให้มีเงินส่งลูกหลานเรียน

เมื่อวันที่ 13 เม.ย. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กโดยกล่าวถึงแนวคิดของ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.กระทรวงศึกษาธิการ ที่จะจัดซื้อแท็บเล็ตแจกนักเรียนในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด แต่ถึงอย่างไรตอนนี้แนวคิดดังกล่าวได้ถูกยกเลิกไปแล้วหลังมีกระแสต่อต้าน ว่า ขอบคุณนายณัฏฐพล ที่ตัดสินใจยกเลิกแนวความคิดนี้

พร้อมตั้งข้อกังวลของสังคมต่อแนวคิดดังกล่าว อาทิ 1.ไม่อยากจะให้ประวัติซ้ำรอยเหมือนยุครัฐบาลในอดีตที่ใช้นโยบายประชานิยมกับทุกกลุ่ม

2.การจัดซื้อแท็บเล็ตอาจจะเกิดความไม่โปร่งใส และเกิดการทุจริตคอรัปชั่นได้ง่าย

3.มองว่าไม่สามารถที่จะแจกจ่ายให้กับนักเรียนได้อย่างทั่วถึง ทั้งโรงเรียนของรัฐบาลและโรงเรียนเอกชน

4.แท็บเล็ตอุปกรณ์ที่มีการเปลี่ยนทางเทคโนโลยีรวดเร็วมาก หากตกรุ่นหรือเสื่อมสภาพ ก็จะกลายเป็นขยะทางอิเล็กทรอนิกส์ของสังคม

ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า การที่นายณัฏฐพล ตัดสินใจยกเลิกโครงการนี้เร็วเป็นการตัดไฟต้นลมเพื่อไม่ให้เกิดกระแสโจมตีรัฐบาลหรือนำไปขยายผลทางการเมือง นับว่าเป็นเรื่องที่ดีจะได้ไม่เกิดข้อครหาและไม่ให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดว่ามีการตำหนิโครงการประชานิยมของรัฐบาลในอดีต มาแต่รัฐบาลชุดนี้ก็มีโครงการประชารัฐเช่นกัน

นายเทพไท เสนอว่า ถ้ารัฐบาลชุดนี้จะทำเกี่ยวกับเรื่องคุณภาพทางการศึกษา ควรกลับไปดูโครงการเก่าๆของพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยทำ อาทิ โครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียน โครงการนมโรงเรียน กองทุนกู้ยืมการศึกษา(กยศ.) ซึ่งอยากให้รัฐบาลชุดนี้ต่อยอดโครงการดังกล่าว

พร้อมมองว่าจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้ปกครองหลายคนประสบปัญหาทางเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก ดังนั้นรัฐบาลต้องหามาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ปกครองของนักเรียนด้วย เพราะถ้าหากผู้ปกครองไม่มีเงินส่งเสียให้บุตรหลานได้ศึกษาต่อ ก็จะทำให้เด็กพลาดโอกาสในการศึกษาไป ซึ่งจะมีผลเสียต่อภาพรวมการศึกษาของประเทศ

ส่วนการที่ รมว.ศึกษาธิการ มีดำริที่จะสนับสนุนจ่ายเงินให้กับนักเรียนระดับอาชีวศึกษา คนละ 5000 บาทนั้นก็เป็นเรื่องที่ดี แต่อยากจะให้พิจารณาสนับสนุนหรือขยายโครงการนี้มายังนักเรียนสายสามัญในโรงเรียนรัฐบาลและเอกชนด้วย แม้ว่าในปัจจุบันจะมีโครงการเรียนฟรีของรัฐบาลแล้วก็ตาม แต่ก็ถือเป็นการช่วยเหลือผู้ปกครองอีกทางหนึ่ง