มท.1 ชี้ปิดเมือง เป็นอำนาจตามกม.ของผู้ว่าฯ ถือเป็นเรื่องที่ดี

เมื่อวันที่ 17 มี.ค. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดอุทัยธานีประกาศปิดเมืองเพื่อลดผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า การพิจารณาเป็นอำนาจของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานที่จะออกมาตรการเพื่อลดการระบาดของโรค ซึ่งเป็นไปตามกฏหมายโดยไม่ต้องผ่านส่วนกลาง ซึ่งเนื้อหาของประกาศปิดเมืองเพื่อคัดกรองคนเป็นไปตามมาตรการ social distance คือไม่ให้คนรวมกลุ่มกัน ตามมาตรการที่ศูนย์ บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ให้แนวทางไว้

ส่วนการที่แต่ละจังหวัดประกาศปิดเมือง จะทำให้การแก้ไขปัญหาไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับส่วนกลางหรือไม่ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ที่แต่ละจังหวัดทำได้ ตามสถานการณ์ที่เหมาะสม และหากจะปิดเมืองต้องมีแผนรองรับทั้งการประกอบอาชีพ การขนส่งและการดำเนินชีวิตของประชาชน ทั้งนี้ ตนไม่ได้มองว่าเป็นการลักลั่น ซึ่งแต่ละแห่งไม่จำเป็นต้องมีประกาศมาตรการเหมือนกัน เพราะต้องเป็นไปตามสถานการณ์ของแต่ละจังหวัด เพียงแต่กรอบใหญ่จะต้องเป็นไปในแนวทางเดียวกัน

รมว.มหาดไทย กล่าวว่า สำหรับแนวทางของแต่ละท้องถิ่นหากมีกิจกรรมที่ต้องรวมตัวกัน เช่น งานบุญ สนามชนไก่ จะต้องรอกรอบปฏิบัติ หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้(17 มี.ค.) ว่าจะออกมาอย่างไร ให้คนรวมตัวกันได้กี่คน รวมถึงสถานที่ประกอบการบางแห่งต้องห้ามรวมตัวกัน เช่น สนามมวย สถานบันเทิงหรือสถานประกอบการอื่นที่ออกข้อห้าม ก็ต้องปฏิบัติตาม ซึ่งการที่ประชาชนพร้อมปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ ทั้งการปิดเมืองหรือเว้นระยะการเข้าสังคมเป็นสิ่งที่น่าดีใจ ส่วนพื้นที่ กทม. จะสามารถใช้มาตรการปิดเมือง ได้หรือไม่ ขอให้รอคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติเสนอขึ้นมาก่อน เพื่อนำเข้าหารือในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ผมไม่อยากตอบคำถามไปก่อน เพราะจะเป็นการสร้างกระแส

ส่วนข้อเสนอให้เลื่อนวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2563 ระหว่างวันที่ 13-15 เม.ย.นี้ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า เจตนาของการเลื่อนวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากไม่ต้องการให้มีการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก เพราะมีโอกาสที่จะแพร่ระบาดของเชื้อได้ สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจกับประชาชนเรื่อง social distance คือ ไม่ให้คนรวมกลุ่มกัน