posttoday

พรรคก้าวไกลป่วนซะแล้ว!"ณัฐชา"สวน"คารม"ถ้าไม่อยู่กับอนค.คงไม่ได้เป็นส.ส.

12 มีนาคม 2563

ส.ส.อดีตอนาคตใหม่แตกคอปมนโยบายพรรคก้าวไกล"คารม"ส่อไม่ร่วมด้วย"ณัฐชา"ซัดเป็นส.ส.ได้เพราะ"อนาคตใหม่"อย่าอ้างเรื่องความเป็นคนอีสาน

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.อดีตพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงเรื่องที่ นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อว่าอาจจะไม่ขอไปต่อกับพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคใหม่ หลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ว่า ได้เห็นนายคารม ออกจากไลน์กรุ๊ปเพื่อนส.ส. ตั้งแต่กลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็ไม่ได้คิดอะไร ไม่มีอคติ กล่าวหา นายคารม เลย ยังเคารพซึ่งกันและกันเสมอ จนมาอ่านข่าวการให้สัมภาษณ์ของนายคารม ที่กล่าวถึงเหตุผลที่ตัดสินใจไม่ไปต่อกับเพื่อนส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ว่า โครงสร้างใหม่ของพรรคที่พวกเราจะย้ายไปอยู่ด้วยกันไม่มีนโยบายเพื่อภาคอีสาน

"อดีตพรรคอนาคตใหม่ให้ความสำคัญกับท้องถิ่นมากๆ นายคารม น่าจะรู้ดีด้วยซ้ำเพราะ เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ สัดส่วนภาคอีสาน ถ้าพรรคไม่ให้ความสำคัญกับภาคอีสานคงไม่ได้เป็นส.ส. พรรคให้ความสำคัญกับภาคอีสานมากกว่า ที่ ส.ส.คนหนึ่งจะมาอ้างในการเรียกร้องตำแหน่ง ผมยืนยันว่า พรรคมอบหน้าที่และสนับสนุนบทบาทของส.ส.ทุกคน ถ้าจะให้เหตุผลว่าอดีตพรรคอนาคตใหม่ไม่เห็นความสำคัญคงไม่ใช่ คุณคารม เองเป็นสมาชิกพรรคการเมืองมาหลายพรรคแต่ก็ไม่เคยได้รับตำแหน่งอะไรเลย จนได้เป็นส.ส. ในนามพรรคอนาคตใหม่ ผมคิดว่าเหตุผลเท่านี้เพียงพอแล้วว่าพรรคให้ความสำคัญกับสมาชิกทุกคนหรือไม่” นายณัฐชา กล่าว

นายณัฐชา กล่าวอีกว่า อยากจะเตือนสติ นายคารม ด้วยความหวังดีว่า สถานะของ นายคารม นั้นเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ นายคารม ได้เข้ามาในสภาก็เพราะพรรค ไม่ใช่ด้วยตัวของ นายคารม เอง อำนาจการตัดสินใจว่า นายคารม ควรอยู่ต่อหรือไปควรเป็นของประชาชนและพรรค การละทิ้งพรรคไปเช่นนี้ เท่ากับละทิ้งเสียงของประชาชน ส.ส.คือผู้แทนประชาชน ถ้านึกจะย้ายก็ย้ายกันง่ายๆ แล้วจะเรียกตัวเองว่าผู้แทนได้อย่างไร

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 12 มี.ค. นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ได้ออกจากไลน์กลุ่มของ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารการทำงานของกลุ่ม ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ไป ซึ่ง ส.ส.ที่เหลืออยู่ตั้งข้อสังเกตว่า นายคารม จะไม่ไปร่วมงานกับพรรคก้าวไกล ซึ่งเดิม ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 55 คน นัดรวมตัวจะสมัครข้าเป็นสมาชิกในวันที่ 14 มี.ค.นี้ ที่ศูนย์ประสานงาน ฝั่งธนบุรีอดีตพรรคอนาคตใหม่

อย่างก็ตามในเวลา ต่อมา นายคารม ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุที่ ออกจากกลุ่มไลน์ เพราะอยากคิดอะไรโล่งๆ และทบทวนสิ่งที่ผ่านมา โดยหลังการประชุมอดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เห็นทิศทางโครงสร้างการทำงานของพรรคใหม่ว่ามีเรื่องของภาคอีสานน้อยมาก ซึ่งตนเองเป็นคนอีสานเห็นว่าหากแก้ปัญหาและพัฒนาภาคอีสานอย่างเต็มศักยภาพ โดยเฉพาะลดความเหลื่อมล้ำ เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาของประเทศได้มากกว่าครึ่ง เพราะภาคอีสานเป็นมีพื้นที่กว้างใหญ่ และมีประชากรเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ พรรคที่จะไปยังไม่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้เท่าที่ควร

สำหรับส่วนในเรื่องการปฏิรูปทหาร หรือแก้รัฐธรรมนูญ การกระจายอำนาจนั้น ตนเองไปอยู่พรรคไหน ก็ชูประเด็นเรื่องนี้และสามารถพูดได้อยู่แล้ว และหากครั้งนี้ตนตัดสินใจไปที่ไหนจะมาว่าตนเองเป็นงูเห่าไม่ได้ เพราะเวลานี้ไม่ได้สังกัดพรรคไหน และยังมีเวลาคิด ว่าการเมืองในวันข้างหน้ามันตอบโจทย์เราหรือไม่ เวลานี้ตนเองขอกลับต่างจังหวัดใช้เวลามองความแห้งแล้งของภาคอีสานแล้วพิจารณาก่อนว่าจะเดินไปอย่างไร และก็ยังไม่ทราบว่าใน 55 อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ มีคนคิดแบบตนอีกหรือไม่

"เมื่อมาถึงจุดหนึ่งก็ต้องทบทวนทิศทางที่จะเดินไป มันช่างละเลยกับคนอีสาน ที่ผ่านมาเคยอดทนมาหลายครั้งแล้ว มันใช่หรือไม่ใช่ก็ต้องถามตัวเองอีกครั้ง ผมไม่พูดไม่ได้เพราะเป็นคนอีสาน แต่พรรคที่เราจะไปไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควร" นายคารม กล่าว

นายคารม กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาถึงไม่ได้เป็นฝ่ายกฎหมายของพรรค แต่ก็ปกป้องอดีตหัวหน้าและอดีตเลขาธิการพรรค มาโดยตลอด เขาให้ประท้วงในสภาเวลามีการอภิปรายก็ทำหน้าที่ประท้วงมาและต่อสู้มาไม่เคยฝ่อ วันนี้ก็ยังให้เกียรติทุกคน ซึ่งวันนี้ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปไหนเพราะยังเหลือเวลาอีก 1 เดือนกว่า ในการสังกัดพรรคใหม่ ยังตอบไม่ได้ว่าวันที่ 14 มี.ค.นี้ จะไปปรากฏตัวในการสมัครเข้าพรรคก้าวไกลหรือไม่ ซึ่งหากตัดสินใจอย่างไรเชื่อว่าจะมีคนวิจารณ์ แต่ก็ยืนยันว่าสามารถตอบคำถามและมีคำอธิบายให้ประชาชนได้หมด ยังบอกไม่ได้ว่าจะไปพรรคไหน หรืออาจจะไปร่วมกับพรรคฝ่ายค้านด้วยกันก็ได้

"ว่าที่หัวหน้าพรรคใหม่ก็เป็นคนน่ารักและมีความรู้ความสามารถ แต่การทำงานทางการเมืองเป็นคนละเรื่องกันกับหน้าตา เหมือนสามีภรรยา สามีไม่ใช่ว่าจะต้องอยู่กับภรรยาที่เป็นคนสวย แต่จะอยู่กับคนที่เข้าใจเขาและมีความเห็นอกเห็นใจกัน เพื่อสร้างครอบครัวให้แข็งแรงมั่นคง" นายคารม กล่าว