วันนอร์ ไล่"บิ๊กตู่" ไปบำบัด "จิตใต้สำนึก" ฉะไม่ละอาย ใช้สภาซื้อ สส.
"วันนอร์" ชี้ "ประยุทธ์" ทำผิดรัฐธรรมนูญเพียบ ทั้งแถลงนโยบายไม่แจงที่มา พักบ้านหลวง ฯลฯ ฉะไม่ละอาย ใช้สภาซื้อ สส. ไล่ไปบำบัด "จิตใต้สำนึก"
วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ อภิปรายว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้ทำการยึดอำนาจล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีการฉีกรัฐธรรมนูญปี พ.ศ. 2550 และออกกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ต่างๆเพื่อปกป้องตนเองกับพวกและเมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้วพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังมีพฤติกรรม หรือกระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ เช่น จงใจไม่ปฏิบัติตามมาตรา 162 กล่าวคือ มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาและไม่มีการชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ แถมยังแยกแยะผิดถูกไม่เป็นและยังคงอยู่บ้านหลวงและไม่ปฏิบัติตามมาตรา 186 ซึ่งให้นำความในมาตรา 184(3) มาบังคับใช้ซึ่งมีความโดยสรุปว่ารัฐมนตรีต้องไม่รับเงินหรือผลประโยชน์อื่นใดจากหน่วยราชการและการอยู่บ้านหลวงโดยอ้างว่าตนเองต้องเข้ามาบริหารประเทศและต้องอยู่บ้านหลวงต่อ เพราะ รู้สึกว่าปลอดภัย
"สิ่งที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าใจและปฏิบัติอยู่เรื่องที่ไม่ถูกต้องเพราะถือเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ อีกทั้ง ยังขัดกับมาตรฐานทางจริยธรรมและการฝ่าฝืน หรือ ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมถือว่ามีลักษณะที่ร้ายแรงและจะทำให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามมาตรา 170 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพ. ศ. 2560"
นอกจากนี้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังสมคบคิดกับพวกยึดอำนาจและปล้นเอาสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค ฯลฯ ของคนไทยแล้วนำไปซุกไว้ในอุ้งมือ สำแดงจุดยืนชัดเจนว่ามีการตระเตรียมที่จะปฏิวัติล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 2 ปี มีการกำหนด ขั้นตอนการสืบทอดอำนาจที่ชัดเจนไว้ 8 ขั้นแบบเป็นขั้นเป็นตอน เพราะตั้งใจที่จะอยู่ยาวเริ่ม ตั้งแต่เขียนรัฐธรรมนูญฉบับห้ามแก้ สร้างกติกาการเลือกให้เป็นประโยชน์แก่ตนเอง แต่งตั้ง ส.ว. เพื่อโหวตตนเองให้เป็นนายก ฯลฯ ซ้ำร้ายเวลาเลือกตั้งก็ใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทยเป็นเครื่องมือรับส่งและมอบเงินซื้อเสียงกันอย่างเอิกเกริก ภายหลังจากการเลือกตั้งก็ใช้องค์กรอิสระเป็นเครื่องมือเพื่อให้ได้มาเป็นรัฐบาล เริ่มตั้งแต่การกำหนดวิธีการนับคะแนนที่แปลกและพิสดาร ประกาศผลการแต่งตั้งล่าช้า หรือ เมื่อเป็นรัฐบาลแล้วและรู้ว่าเสียงปริ่มน้ำก็มีการหาซื้องูเห่ากันแบบออกหน้าออกตา ไม่เลือกสถานที่ และสิ่งที่น่าละอายอย่างยิ่ง คือ ใช้ ' สัปปายะสภาสถาน' หรือ 'รัฐสภาไทย' ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ต่อรองและซื้อขายงูเห่ากันอย่างเป็นล้ำเป็นสัน
นาย วันมูหะมัดนอร์ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและพวกุบริหารและกำลังนำพาประเทศไปสู่ความล้มเหลวและยากลำบาก มีการตั้งงบประมาณเพื่อรับเงินทอนอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแก้ป้ญหาจังหวัดชายแดนใต้ที่นับวันจะสูงขึ้นเรื่อยๆ โครงการต่างๆ ที่ริเริ่มและทำขึ้น เช่น การซื้อเรือเหาะ CCTV หรือ โครงการ Safe Zone School ที่ใช้งบกว่า 405 ล้าน หรือ โครงการติดตั้งเสาไฟฟ้าโซล่าเซลล์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ 'เสาผีหลอก' ซึ่งใช้งบประมาณติดตั้งกว่าหนึ่งพันล้านบาท ฯลฯ ล้วนมีปัญหาและสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น แถมปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ยังมีการตั้ง 'งบประมาณหน' หรือ 'งบบูรณาการ' ไว้เป็นเครื่องมือเพิ่มเติม หรือ เป็นกลไกใช้จ่ายที่ยากในการควบคุม หรือ กำกับดูแลและมั่นใจอย่างยิ่งว่าเงินภาษีของประชาชนจะสูญเปล่ามากยิ่งขึ้น
"รัฐบาลล้มเหลวในการแก้ปัญหาชายแดนใต้ ยังคงมีเหตุการณ์และความสูญเสียเพิ่มขึ้นในภาพรวม เพราะการแก้ปัญหาไม่ยึดโยงการมีส่วนร่วมของประชาชนบนฐานสังคมพหุวัฒนธรรม ไม่เคารพหลักสิทธิมนุษยชน หลักนิติรัฐและนิติธรรม รวมถึง มีการใช้นโยบาย 'ล้างสมอง' ในการแก้ปัญหาชายแดนใต้ เช่น มีการจัด 'โครงการส่งเสริมและเผยแพร่ความจริงที่ถูกต้อง' โดย กอ.รมน. เพื่อ "ล้างสมอง ครอบงำ ทำลายอัตลักษณ์และละเมิดสิทธิ์ เด็กอายุ 1-5 ขวบ โดยใช้งบประมาณสูงถึง151ล้านบาทซึ่งถือว่า " สิ้นเปลือง" และนโยบาย ข้างต้น จะก่อให้เกิดปัญหาในระยะยาวเช่นเดียวกับ 'นโยบายล้างประเพณีและวัฒนธรรมของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม หรือ 'นโยบายกลืนชาติพันธุ์' ของ จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ เพราะทำให้ผู้เห็นต่างถูกจับกุมคุมขัง หรือ หลบหนีและท้ายที่สุดก็รวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนต่อต้านรัฐ"
นาย วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ไทย กลายเป็น " รัฐอำนาจนิยม" และ "การทหาร" ทำทุกอย่างเพื่อตนเองกับพวกพ้อง กอปรกับ "6 ปี" ที่ผ่านมามีเหตุกับปัจจัยหลายอย่างที่เห็นได้ชัดสามารถและสามารถสรุปได้ว่า พล.อ. ประยุทธ์ คือ "ผนงรจตกม" และถ้าดึงดัน หรือ อยู่ต่อไป " พวกเราจะตายกันหมด" เพราะ พล.อ. ประยุทธ์ มี "จิตใต้สำนึก...บกพร่อง" แต่อย่างไรก็ตาม พล.อ. ประยุทธ์ ก็ยังคง 'ไม่ต้องลาออก' จากการเป็น "นายกรัฐมนตรี" เพราะตั้งใจที่จะอยู่ยาวและเพื่อให้พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชากับพวกสมประโยชน์ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องเข้าไปรับการบำบัดดูแลให้มีจิตใต้สำนึก หรือ sub consciousness ที่ถูกต้องเหมาะสมและอยู่ในสภาวะปกติ สงบเรียบร้อย มีอุปนิสัยที่ดีและไม่ก้าวร้าว