posttoday

ประเด็นร้อน24 พ.ย.

24 พฤศจิกายน 2553

ยังคงต้องติดตามการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญวันที่สอง รวมถึงการชุมนุมของม็อบเสื้อเหลืองหน้าสภาว่าจะอยู่กรอบของกฎหมายเหมือนอย่างวันแรกหรือไม่          1.งานสัมมนาใหญ่ประจำปีของสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์โดยปีนี้ใช้หัวข้อ "ทิศทางเศรษฐกิจปี2554 ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ท่ามกลางความขัดแย้ง" เริ่มเวลา 09.00 น. โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาที่ห้องแกรนด์ บอลรูมโรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค ถนนสุขุมวิท มีคณาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้าร่วมคับคั่งอาทิ นางปัทมาวดี ซูซูกิ นายสกนธ์วรัญญวัฒนา นางปราณี ทินกร ร่วมด้วยนายพิชัย ชุณหวชิร ประธานกรรมการบริษัท ไทยออยล์ นายเกียรติ สิทธีอมรประธานผู้แทนการค้าไทย นายดุสิตนนทะนาคร ประธานหอการค้าแห่งประเทศไทย และนางเดือนเด่นนิคมบริรักษ์ ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการบริหารจัดการระบบเศรษฐกิจทีดีอาร์ไอ           2.เวลา 12.30 น. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ และ รมว.คลัง มาปาฐกถา "พลิกเปลี่ยนประเทศไทยเพื่ออนาคต" ที่พลาดไม่ได้คือ ช่วงเย็นเวลา 15.30-17.3

ยังคงต้องติดตามการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญวันที่สอง รวมถึงการชุมนุมของม็อบเสื้อเหลืองหน้าสภาว่าจะอยู่กรอบของกฎหมายเหมือนอย่างวันแรกหรือไม่
         
1.งานสัมมนาใหญ่ประจำปีของสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์โดยปีนี้ใช้หัวข้อ "ทิศทางเศรษฐกิจปี2554 ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ท่ามกลางความขัดแย้ง" เริ่มเวลา 09.00 น. โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาที่ห้องแกรนด์ บอลรูมโรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค ถนนสุขุมวิท มีคณาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้าร่วมคับคั่งอาทิ นางปัทมาวดี ซูซูกิ นายสกนธ์วรัญญวัฒนา นางปราณี ทินกร ร่วมด้วยนายพิชัย ชุณหวชิร ประธานกรรมการบริษัท ไทยออยล์ นายเกียรติ สิทธีอมรประธานผู้แทนการค้าไทย นายดุสิตนนทะนาคร ประธานหอการค้าแห่งประเทศไทย และนางเดือนเด่นนิคมบริรักษ์ ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการบริหารจัดการระบบเศรษฐกิจทีดีอาร์ไอ
         
2.เวลา 12.30 น. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ และ รมว.คลัง มาปาฐกถา "พลิกเปลี่ยนประเทศไทยเพื่ออนาคต" ที่พลาดไม่ได้คือ ช่วงเย็นเวลา 15.30-17.30 น. เสวนาเรื่อง"ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยภายใต้วิกฤตการเมือง" โดยนายไตรรงค์ สุวรรณคีรีรองนายกรัฐมนตรี ประชันฝีปากกับม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง รวมทั้งนายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานกรรมการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอ็มเอฟซี
         
3.เวลา 08.30 น. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย(IOD) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) จัดสัมมนานำเสนอผลสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนประจำปี 2553 (CGR 2010) ณตลาดหลักทรัพย์ฯ

ประเด็นร้อน24 พ.ย.

4.ติดตามการอภิปรายการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญวันที่สอง เริ่มเวลา09.00 น. หลังจากเมื่อวันที่ 23 พ.ย.มีการอภิปรายกันกว้างขวาง โดย สส.ฝ่ายค้านและรัฐบาลต่างอภิปรายสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขของตัวเองอย่างไรก็ตาม การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะผ่านชั้นรับหลักการ ต้องอาศัยเสียงกึ่งหนึ่งของรัฐสภา หรือ 310 เสียง ทำให้สว.เป็นตัวแปรที่สำคัญ ต้องจับตาท่าทีของ สว.กลุ่มต่างๆ ว่าจะมีท่าทีอย่างไรโดยเย็นวันที่ 24 พ.ย. สว.กลุ่ม 40 ที่คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะหารือเพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้ง เชื่อว่าบิ๊กรัฐบาลจะล็อบบี้ สว.กันฝุ่นตลบเพื่อให้รับหลักการให้ได้
         
5.จับตาการแก้เกมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่การคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้มีมวลชนให้มาร่วมชุมนุมน้อยกว่าที่คาดไว้มาก ซึ่งคงไม่สามารถกดดันรัฐบาลและฝ่ายค้านได้ ต้องดูว่าการชุมนุมคู่ขนานการประชุมรัฐสภาของกลุ่มพันธมิตรฯจะมีมวลชนมากขึ้นหรือน้อยลงอย่างไร
         
6.เวลา 13.30 น. สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแถลงข่าวความคืบหน้าโครงการจัดระเบียบทางเท้าโดยรอบสยามสแควร์โดยมี น.อ.นพ.เพิ่มยศ โกศลพันธุ์ รองอธิการบดี กำกับดูแลสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพร้อมด้วยนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. พ.ต.อ.ชุมพร กาญจนรัตน์ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลปทุมวันห้องประชุมชั้น 4 อาคาร  Digital Gateway สยามสแควร์ ในงานจะมีผลสำรวจภายหลังดำเนินการจัดระเบียบทางเท้า รวมถึงโครงการปรับภูมิทัศน์ทางเท้าโดยรอบสยามสแควร์


7.เวลา 17.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยเรือพระที่นั่งอังสนาเป็นการส่วนพระองค์ เพื่อทรงเปิดสะพานภูมิพล 1 และสะพานภูมิพล 2 และทรงเปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เฝ้ารับเสด็จ
         
สะพานภูมิพลทั้งสองแห่งนี้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2538 ช่วยลดปัญหาการจราจร เพื่อไม่ให้รถบรรทุกวิ่งเข้าไปในตัวเมืองหรือทิศทางอื่น โดยด้านทิศเหนือเชื่อมกรุงเทพฯกับ จ.สมุทรปราการ ได้รับพระราชทานชื่อว่า "สะพานภูมิพล 1" ส่วนด้านทิศใต้เชื่อมอ.พระประแดง กับ ต.สำโรงใต้ ได้รับพระราชทานชื่อว่า "สะพานภูมิพล 2"เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2552