เพื่อไทยไม่รับร่างแก้รธน.

เพื่อไทยไม่รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล เฉลิมชี้ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ ชูฉบับปี40หาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า สว.เลือกตั้งโวยไม่แก้ระบบสรรหาสร้างความเลื่อมล้ำในสภา

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย อภิปรายในการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล และร่างของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะไม่เห็นมีประโยชน์อะไรต่อประชาชน แม้การเสนอให้แก้ไขเรื่องระบบเลือกตั้ง ให้เป็นเขตเดียวเบอร์เดียว จะเป็นส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญปี 40 ก็ตาม แต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อย หากจะแก้จริงก็ต้องแก้ทั้งฉบับ โดยยึดร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน

"ไม่เข้าใจว่าเหตุใดพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยยืนยันว่าเห็นด้วยกับระบบเลือกตั้งเขตใหญ่เรียงเบอร์มาตลอด กลับเสนอให้แก้ไขเช่นนี้ เป็นเพราะกินยาผิดซอง หรือเป็นเพราะนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขู่ว่าหากไม่ทำจะเกิดการปฏิวัติ หากเป็นเช่นนี้ขอให้มาบอกผม จะได้แจ้งความดำเนินคดีนายกฯในฐานะเป็นหัวหน้ารัฐบาล ทราบว่าจะมีการปฏิวัติกลับไม่ยับยั้งแก้ไข" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
              
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า หรือการเสนอแก้ไขให้เป็นเขตเดียว เบอร์เดียว เพราะมีคนไปบอกว่าถ้าไม่แก้จะสู้พรรคเพื่อไทยไม่ได้ จะไม่มีใครไปเจาะฐานเสียงช่วยพรรคประชาธิปัตย์ และเมื่อแก้ตรงนี้ก็ยังกำหนดให้การโหวตเลือกนายกฯเป็นเอกสิทธิ์ ส.ส. อย่างนี้หมายความว่าเมื่อเลือกตั้งเสร็จ ก็จะซื้อกันยกใหญ่ มีการฉกชิงวิ่งราวส.ส.อีกใช่หรือไม่ แสดงให้เห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เพียงแค่ประโยชน์ของพรรคการเมืองเพื่อจะได้กลับมาเป็นรัฐบาลครั้งหน้าใช่หรือไม่

ทั้งนี้ อยากได้ยินคำยืนยันจากนายกฯกลางสภา ว่าหากเลือกตั้งต่อไปแล้วแพ้พรรคเพื่อไทย จะไม่ตั้งรัฐบาลแข่งใช่หรือไม่ เพราะหากตั้งรัฐบาลแข่ง มีตัวช่วยมาคอยช่วยเหลือ ก็เป็นสาเหตุของการชุมนุม เพราะประชาชนที่มาชุมนุมเขาต้องการประชาธิปไตย ให้เสียงที่เขาเลือกเป็นผล ไม่ได้ต้องการมาทะเลาะกับทหารหรือตำรวจ
              
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า หากรัฐบาลยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ ต้องถามว่าเพื่อความสมานฉันท์ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้นใช่หรือไม่ เหตุใดที่คณะกรรมการชุดนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เสนอให้แก้ไขเรื่องสัดส่วนของกรรมการสรรหาส.ว.จึงไม่นำมาพิจารณา หรือเป็นเพราะในช่วงเดือนก.พ. 54 ส.ว.สรรหาจะหมดวาระ ถึงกลัวว่า หากเปลี่ยนแปลงสัดส่วน จะไม่สามารถเลือกคนของตัวเองมาทำหน้าที่ได้ใช่หรือไม่

"พรรคเพื่อไทยจะนำประเด็นการเอารัฐธรรมนูญ ปี 40 กลับมาใช้เป็นประเด็นหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้า หากประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยเกินกึ่งหนึ่ง ก็จะนำรัฐธรรมนูญปี 40 กลับมาใช้แน่นอน" ร.ต.อ.เฉลิม ระบุ
               
ส.ว.สายเลือกตั้งโวยไม่แก้ระบบสว.สรรหาสร้างความเหลื่อมล้ำ

การประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญทั้ง 4 ฉบับในช่วงเย็นเป็นไปอย่างเข้มข้นโดยยังเป็นการสลับกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นระหว่างส.ส.และส.ว.

นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี อภิปรายโจมตีการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลว่า เป็นการดำเนินการเพื่อให้รัฐบาลสามารถอยู่ต่อไปได้จนครบเทอมไมได้ต้องการแก้ไขปัญหาของประชาชน ที่สำคัญการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ได้มีการปรับระบบที่มาของส.ว.ให้มีความเท่าเทียมกัน เพราะส.ว.สรรหาเมื่อครบวาระ 3 ปีสามารถได้รับการสรรหาเข้ามาใหม่ได้ ผิดกับส.ว.เลือกตั้งที่ต้องเมื่ออยู่ครบวาระ 6 ปีแล้วต้องเว้นวรรคไป2 ปีถึงจะสามารถกลับมาลงสมัครได้

นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้กำลังสร้างประเทศไทยให้เป็นรัฐเสนาบดีให้อำนาจมากเกินไปเช่นคนไม่มีกี่คนให้มีอำนาจเลือกคนเข้ามาเป็นส.ว.ในครึ่งหนึ่งของวุฒิสภา ไม่ได้เป็นการยึดโยงระบบประชาธิปไตย

นายเจริญ ภักดีวนิช สว.จ.พัทลุง กล่าวว่า เห็นด้วยที่จะมีการแก้ไขในมาตรา 190 เรื่องการทำสนธิสัญญาระหว่างประเทศ แต่เห็นว่ามาตรา93-98ว่าด้วยเรื่องเขตเลือกตั้งนั้นยังไม่จำเป็น ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีจุดเด่นในเรื่องคุ้มครองเสรีภาพของประชาชน ซึ่งมีกว่า 70 มาตรา แต่ฉบับปี2540 มีเพียงกว่า 40 มาตราเท่านั้น แต่จุดด้อยของรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 คือให้อำนาจตุลาการมากเกินไป ขณะเดียวกันเห็นว่า หากแก้บทเฉพาะกาลเชื่อว่า จะมามารถสร้างความปรองดองได้มากกว่า โดยเฉพาะ การแก้ไขมาตรา 309 เพื่อให้ผู้กระทำการรัฐประหารชเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและเป็นบทเรียนให้ผู้ที่เตรียมทำรัฐประหารในอนาคต