มท.1 ยันเดินหน้าเลือกตั้งท้องถิ่น มองการเมืองยังขัดแย้ง

รมว.มหาดไทย ยืนยันเดินหน้าเลือกตั้งท้องถิ่น รอ กกต. ออกระเบียบแบ่ง-เขตเลือกตั้ง ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกประชาธิปไตย มองการเมืองไทยยังขัดแย้ง กระทบเศรษฐกิจ แนะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ

เมื่อวันที่ 29 ธค. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดเลือกตั้งท้องถิ่นว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นมี 2 ส่วน คือ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) โดยส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย คืออปท. ซึ่งมีการเตรียมออกข้อบัญญัติเกี่ยวกับค่าใช่จ่ายในการเลือกตั้งท้องถิ่นแล้ว รอเพียงกกต.ออกระเบียบข้อบังคับ และแบ่งเขตเลือกตั้ง รวมถึงกำหนดทุกอย่างให้เรียบร้อยก็สามารถออกข้อบัญญัติเพื่อนำมาบังคับใช้ได้ เมื่อทราบความชัดเจนของทั้ง 2 ส่วนแล้ว คงจะได้มีการหารือร่วมกันก่อนที่จะส่งเรื่องให้รัฐบาลพิจารณา ทั้งนี้ยืนยันการเลือกตั้งท้องถิ่นต้องเดินหน้า ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกประชาธิปไตย โดยคนที่พร้อมทำเพื่อประชาชนก็ขอให้เตรียมตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง ส่วนประชาชนก็เตรียมใช้สิทธิ์เลือกคนเข้ามาทำงานอย่างเต็มที่

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองในปี 2563 ว่า จะเห็นว่าประเทศที่มีปัญหาขัดแย้งทางการเมืองไม่ได้ทำให้ประเทศชาติหรือประชาชนมีความสุข แต่ทำให้ประเทศชาติเสียโอกาส ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาอะไรก็แล้วแต่ ส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชน แต่ถ้าเป็นการเคลื่อนไหวที่เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตย อยู่ในกฎเกณฑ์ ก็น่าจะทำให้ทุกคนมีความสุข และไม่ทำให้ประเทศชาติเสียโอกาสในการพัฒนา ตนไม่อยากมาอ้าง ทุกคนทราบดีว่าปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาระดับโลก ส่งผลกระทบถึงกันหมด ประเทศไทยมีการทำการเกษตรและส่งออก ดังนั้นมีผลกระทบเป็นธรรมดา ต้องดูว่าทำอย่างไรจะหาทางช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ทำการค้าขายได้ ทำอย่างไรให้คนมีความมั่นใจในการดำรงชีวิต แลัวเกิดการใช้จ่ายเป็นปกติสุข

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวต่อว่า อย่างที่ทราบว่าตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจมี 4 ด้าน คือการใช้จ่ายภาครัฐ ด้านการนำเข้า และส่งออก ด้านการลงทุน และสุดท้ายคือด้านการใช้จ่ายของพี่น้องประชาชน หากบรรยากาศสร้างเสริมให้เศรษฐกิจพอเดินได้ เศรษฐกิจก็เกิดการหมุนได้ ดังนั้นถ้าการเมืองอยู่ในกรอบ ในกฎเกณฑ์ และไม่นำไปสู่การขัดแย้ง ตนคิดว่าตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้ง 4 ด้าน จะเดินไปได้ แต่หากเกิดความวุ่นวายอย่างแรกจะกระทบต่อเศรษฐกิจ และชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประกอบการทั้งหมดแน่นอน

รมว.มหาดไทย ยังกล่าวถึงการนำเสนอข้อมูลข่าวสารว่า จะต้องมีการให้ข้อมูลที่ครบถ้วน รอบด้าน ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ที่จะได้ตัดสินใจ และใช้วิจารณญาณได้ สำหรับกระทรวงมหาดไทยมีกลไกที่ไปถึงพี่น้องประชาชน มีการสร้างการรับรู้ลงไปยังพื้นที่ พยายามนำเสนอข้อมูลง่าย ๆ ของภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประชาชนเพื่อให้เข้าใจในทางที่ถูกต้อง แต่ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้ายังมีอีกฝ่ายให้ข้อมูลไม่สมมาตร ไม่ครบถ้วนครบด้าน

"เราทราบดีว่าธรรมชาติของคนมักจะฟังเสียงลือเสียงเล่าอ้างมากกว่า และมีแนวโน้มเชื่อเรื่องพวกนี้มาก โดยเฉพาะพวกนี้เขาจะอ้างอิงอะไรที่ให้เชื่อแต่อย่างนั้น มันมีโอกาสที่จะทำให้คนเชื่อได้มาก สังคมไทยต้องให้คนกลับมาสู่การพิจารณาโดยใช้ข้อมูลข่าวสาร การวิเคราะห์วิจารณ์ที่เป็นหลักวิทยาศาสตร์ให้มากขึ้น แต่คงต้องใช้เวลา ซึ่งสื่อมวลชนเองก็มีส่วนในการช่วย การรายงานข่าวหรือการวิเคราะห์วิจารณ์ ควรจะนำเสนอให้รอบด้าน และมีเหตุผลพอที่จะให้ประชาชนตัดสินใจ" รมว.มหาดไทย กล่าว