"ชัชชาติ"ประกาศลงชิงผู้ว่ากทม.ในนามอิสระ

"ชัชชาติ"ประกาศลงชิงผู้ว่ากทม.ในนามอิสระ “ประดิษญ์-พริษฐ์” ดอดเข้าร่วมงานกิจกรรม ชุมชนโรงหมู คลองเตย

ที่ลานกิจกรรม ชุมชนโรงหมู คลองเตย กรุงเทพฯ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมว.คมนาคม และแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย จัดกิจกรรมชวนถกเถียงแลกเปลี่ยนในประเด็น “ชัชชาติชวนคุย คนกรุงเทพฯ ช่วยคิด” มีตัวแทนชุมชนต่างๆ ร่วมพูดคุยถึงปัญหาในปัจจุบัน และมุมมองต่ออนาคต

นายชัชชาติ กล่าวกับผู้มาร่วมงานตอนหนึ่งว่า หน้าที่ของกทม.คือต้องลงมาสัมผัสคลุกฝุ่นกับชาวบ้าน ตนตั้งใจที่จะลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อิสระ ไม่ใช่เพราะเราทะเลาะกับพรรคการเมือง แต่เชื่อว่าในเชิงบริหารการลงอิสระเป็นทางเลือกที่ดี ช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาตนลงไปในพื้นที่เยอะเห็นว่าประชาชนเบื่อการทะเลาะเบาะแว้ง กทม. ต้องการนักบริหารต้องการแนวร่วมจำนวนมาก เพื่อประสานงานกับทุกหน่วยงาน และงานในวันนี้ไม่ใช่งานเปิดตัว คนที่มาวันนี้ถ้าไม่เลือกตนก็ไม่เป็นไร วันนั้นหากมีคนที่ดีกว่าเราเลือกคนอื่นได้ แต่หัวใจคือประชาชนต้องมีส่วนร่วม

ทั้งนี้ผู้ว่ากทม.อยู่ 4 ปี ผอ.เขตอยู่ 2 ปี ประชาชนอยู่ตลอดชีวิต จิตวิญญาณและการพัฒนามันอยู่ที่เรา เราต้องกำหนดชีวิตเราเอง อนาคตกทม.จะอยู่ได้ต้องมี 4 ส่วนร่วมกัน ภาครัฐต้องเข้มแข็ง ผู้นำต้องโปร่งใสมีวิสัยทัศน์ทันสมัยและจริงใจในการแก้ปัญหา ประชาชนต้องมีส่วนร่วม และภาคเอกชนก็สำคัญ ต้องคืนประโยชน์และกำไรให้กับประชาชน นักวิชาการ ต้องเป็นเสาหลักให้เรา ในการให้คำตอบที่เป็นธรรม และไฟในใจยังอยู่ มันยังมีต่อไปไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานดังกล่าวมีการจัดกิจกรรมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนากรุงเทพฯ และมีองค์อรต่างๆและประชาชนที่ให้ความสนใจเข้าร่วมอย่างคึกคัก ที่น่าสังเกตคือมีคนในแวดวงการเมืองเข้าร่วมด้วย อาทิ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตรมช.คลัง ซึ่งเดินทางมาร่วมงาน โดยนายประดิษฐ์ กล่าวว่า มาในฐานะประชาชนกรุงเทพฯ เพื่อกำลังใจนายชัชชาติ พร้อมมาสนับสนุนแนวคิดในการกำจัดขยะในกรุงเทพฯ พร้อมกันนี้ยังมีนายพริษฐ์ วัชรสินธุ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมงานด้วย

“ชัชชาติ” แจง อยากได้แนวร่วมปราศจากการเมืองเลยต้องลุยเดี่ยว

นายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า หากเปิดรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตนพร้อมจะลงสมัคร ในนามอิสระ โดยไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย เหตุผลสำคัญที่ตนประกาศเจตนารมณ์ที่จะลงเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ในนามอิสระ เพราะไม่ต้องการให้เกิดภาพของความขัดแย้ง อีกทั้งต้องการหาแนวร่วมพัฒนาพื้นที่กทม. การทำงานส่วนของกทม.จำเป็นต้องอาศัยแนวร่วมเป็นจำนวนมาก เพื่อขับเคลื่อนนโยบายเพื่อพัฒนาเมือง ตนอธิบายให้ผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยฟังว่า เชื่อว่าหากลงอิสระจะได้เแนวร่วม เพราะมีคนจำนวนมากที่เบื่อกับการเมือง ยิ่งสถานการณ์ และสภาพปัจจุบัน คนยิ่งเบื่อหนัก แต่ทุกคนต้องการเห็นกทม. และประเทศไทย ดีขึ้น ดังนั้นจึงพิจารณาว่ามีทางเลือกไหนหรือไม่ ที่สามารถไปด้วยกันได้ ไม่ทะเลาะ

ทั้งนี้ตนมองว่า กทม.ต้องประสานงานจำนวน ทั้งภาครัฐและเอกชน ดังนั้นการลงอิสระจะได้แนวร่วมมากขึ้น และการทำงานคล่องตัวซึ่งตนมองในเชิงบริหารมากกว่าการเมือง เพราะงานการเมืองตนไม่มีฐานเสียง มาจากศูนย์ ถือว่าเหนื่อย

แทงกั๊ก ขอทำโพลก่อนลงสนามจริง

นายชัชชาติ กล่าวด้วยว่าในวันที่มีประกาศให้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ตนจะประเมินคะแนน ผ่านการทำผลสำรวจคะแนนด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์อีกครั้งว่ามีความเป็นไปได้ว่าตนเองจะไปรอด หรือชนะได้หรือไม่ เพราะหากทำผลสำรวจแล้วคะแนนน้อย แล้วจะไปต่อหรือไม่ เมื่อถามว่าการประกาศลงอิสระครั้งนี้ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่คิดมาจากพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า ตนไม่ได้คุยกับพรรค และการลงพื้นที่ที่ชุมชนโรงหมู เขตคลองเตย ตนไม่ได้ใช้เงินของพรรค เมื่อตนประกาศจะลงในนามอิสระ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับพรรค

อย่างไรก็ดีตนยอมรับว่าได้นำปรัชญาของพรรคเพื่อไทยมาปฏิบัติ คือ การลงพื้นที่และการดูแลประชาชน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดี จึงต่อยอด ส่วนการลงสมัครในนามอิสระ คือความคิดของตนไม่เกี่ยวกับพรรค ส่วนตัวไม่กังวลว่าเปิดตัวก่อนแล้วจะถูกแย่งนโยบาย เพราะคิดว่าใจต้องสนุก ทำงานด้วยความหวัง ทำให้กทม.ดีขึ้น ไม่ทะเลาะ หรือ ขัดแย้งกับใคร ซึ่งนโยบายที่ดี หากผู้สมัครคนใดนำไปปฏิบัติแล้วทำให้กทม.ดีขึ้น ขอให้รับไปทำให้ได้จริง ส่วนผู้สมัครของพรรคต่างๆ หากจะลงแข่งขันตนถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ 7 เดือนที่ผ่านมา พบนโยบายที่ดีซึ่งซ่อนอยู่ แต่ไปไม่ถึงนโยบายที่เป็นรูปธรรม ดังนั้นการพัฒนากทม. หัวใจสำคัญคือประชาชน เมื่อถามถึงกระแสที่ นายทักษิณ ชินวัตร แกนนำพรรคเพื่อไทย แสดงความไม่พอใจพรรคเพื่อไทยกรณีบุคคลที่ลงเลือกตั้งผู้ว่ากทม. นายชัชชาติ ปฏิเสธว่าตนไม่ทราบและตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องใดๆกับพรรค และขณะนี้ตนได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้ว

"ไอติม" กั๊กจะร่วมงานหรือไม่เป็นเรื่องของอนาคต

ด้าน นายพริษฐ์ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาในนามส่วนตัว ที่อยู่ในกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า ที่รวมตัวกัน15-20คน โดยจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทั้งเรื่องเศรษฐกิจสังคมและการเมือง ซึ่งมองว่ามีเรื่องที่เราสามารถทำได้มากกว่าที่คิด เช่นเรื่องรัฐธรรมนูญที่กลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้าขับเคลื่อนไปแล้ว รวมถึงนโยบายของ กทม.ในการเลือกตั้งที่จะมาถึงว่าเราอยากจะเห็น คุณภาพสิ่งแวดล้อมของ กทม.ดีขึ้นได้อย่างไร เมื่อถามว่าการมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในวันนี้จะมีโอกาสได้ร่วมงานกันหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ตนมีความเป็นอิสระทางการเมืองไม่ได้สังกัดพรรค นายชัชชาติก็ไม่ได้สังกัดพรรค สามารถแลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้ ว่าอยากเห็น กทม.เป็นอย่างไร เมื่อถามว่านายชัชชาติ ได้ชวนร่วมงานหรือยัง นายพริษฐ์ กล่าวว่ายังไม่ได้มีการพูดคุย ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่นั้นเป็นเรื่องของอนาคต แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่แนวทางและนโยบายสอดคล้องกันขนาดไหน แต่จากที่เคยไปร่วมกิจกรรมกับนายชัชชาติที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายชัชชาติได้พูดถึงแนวทาง กทม.เดินหน้า เปิดเผยข้อมูลของ กทม. ให้ประชาชนรับทราบ ซึ่งเป็นแนวทางที่กลุ่มก้าวหน้าให้ความสำคัญ

เครดิตภาพ เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์