posttoday

"ไพบูลย์"แนะ"เสรีพิศุทธ์" รีบยกเลิกหนังสือเรียก"บิ๊กตู่"แจงกมธ.ก่อนถูกฟ้องปปช.ผิดม.157

16 พฤศจิกายน 2562

“ไพบูลย์”แนะ "นายกฯ" ส่งคืนหนังสือเรียกของ "กมธ.ปราบโกง" เหตุกระทำโดย ผิดกฏหมาย พร้อมแนะ "เสรีพิศุทธ์" เร่งยกเลิกหนังสือเรียกโดยเร็ว ป้องกันการถูกฟ้องร้องต่อปปช. ในความผิด ม.157

“ไพบูลย์”แนะ "นายกฯ" ส่งคืนหนังสือเรียกของ "กมธ.ปราบโกง" เหตุกระทำโดย ผิดกฏหมาย พร้อมแนะ "เสรีพิศุทธ์" เร่งยกเลิกหนังสือเรียกโดยเร็ว ป้องกันการถูกฟ้องร้องต่อปปช. ในความผิด ม.157

เมื่อวันที่ 16 พ.ย.2562 นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ตนได้ ยื่นเรื่องคำร้อง เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2562 เพื่อขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาวินิจฉัยเสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณี พระราชบัญญัติคำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ. 2554 มาตรา 5 มาตรา 8 และมาตรา 13 มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 129 ซึ่งต่อมาในวันที่ 15 พ.ย.2562 ผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบให้เสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยต่อไปในวันเดียวกัน

นายไพบูลย์ เห็นว่า การที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ(กมธ.ปปช) สภาผู้แทนราษฎร ได้ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด ที่ สผ.0019.05/945 เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาชี้แจงแถลงข้อเท็จจริงต่อ กมธ.ปปชในวันพุธที่ 20 พ.ย. 2562 ในประเด็นข้อซักถาม ระบุไว้ 16 ข้อ ทั้งนี้ เนื้อหาในหนังสือระบุว่าอาศัยอำนาจตามมาตรา 129 วรรคสี่ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ประกอบมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติคำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ. 2554 โดยหนังสือระบุไว้มุมบนขวาว่า กมธ.(บค.)1 นั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธาน กมธ. ปปช.ได้ดำเนินการออกหนังสือฉบับดังกล่าว ตามแบบ กมธ.(บค.)1 เป็นไปตาม พรบ คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการฯมาตรา 6 ที่ตนได้ตรวจสอบพบว่าขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 129 เนื่องจากได้บัญญัติให้คณะกรรมาธิการมีอำนาจ”สอบสวน “ซึ่งเป็นการขัดต่อเอกสารหลักฐานความมุ่งหมายและคำอธิบายประกอบรายมาตราของรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 ที่อธิบายไว้ ว่าเจตนารมย์แห่งรัฐธรรมนูญ วางหลักการใหม่ให้คณะกรรมาธิการไม่มีอำนาจ”สอบสวน” แต่ให้มีอำนาจเพียง”สอบหาข้อเท็จจริง” เท่านั้น จึงทำให้ พรบ คำสั่งเรียกของคณะกมธฯมาตรา 6 ซึ่งปรากฏให้คณะกรรมาธิการมีอำนาจ”สอบสวน”จึงขัดต่อความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 เช่นเดียวกับ พรบ คำสั่งเรียกของกมธฯมาตรา 5 มาตรา 8 และมาตรา 13 ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินมีความเห็นไปแล้วว่า มาตราดังกล่าว ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 129

ดังนั้นการออกหนังสือเรียกให้นายกรัฐมนตรีมาชี้แจงครั้งล่าสุดของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธาน กมธ.ปปช. นอกจากขัดต่อรัฐธรรมนูญแล้ว ในหนังสือฉบับดังกล่าวยังระบุเรื่องที่ขอให้ชี้แจงแถลงข้อเท็จจริงคำถามจำนวน 16 ข้อที่ไม่อยู่ในกรอบอำนาจของกมธ.ปปช. วิญญูชนที่ได้อ่านคำถามดังกล่าวแล้ว ย่อมเห็นได้อย่างชัดเเจ้งว่า มีเจตนาจงใจกลั่นแกล้งผู้ที่ต้องไปชี้แจงแถลงข้อเท็จจริง จึงอาจเข้าข่ายเจ้าหน้าที่รัฐ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

และประกอบกับกรณีดังกล่าวผู้ตรวจการแผ่นดินได้เสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย พรบ. คำสั่งเรียกของกมธ.ฯขัดหรือเเย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา129 แล้ว นายไพบูลย์จึงเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ควรปฏิเสธไม่ไปชี้แจงต่อ คณะกมธ.ปปช.ตามหนังสือที่สผ.0019.05/945 หรือพิจารณาส่งคืนหนังสือฉบับดังกล่าวโดยเหตุที่เป็นการออกหนังสือโดยมิชอบด้วยกฏหมายหลายประการ และพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธาน กมธ.ปปช. ควรเร่งขอยกเลิกหนังสือฉบับดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อป้องกันการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติในความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 157