รับมือถูกต่างชาติกดดัน! ไพศาล แนะกรณีเมื่อไทยถูกสหรัฐตัดสิทธิจีเอสพี

ไพศาล สื่อถึง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ต้องรับผิดชอบปมสหรัฐตัดสิทธิจีเอสพีไทย แนะเป็นโอกาสดีที่ควรทำให้คนไทยสามัคคีกัน-รับมือการกดดันจากต่างชาติ

เมื่อวันที่ 27 ต.ค. นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นกรณีที่สหรัฐระงับการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (จีเอสพี) แก่สินค้าไทย มูลค่าราว 4 หมื่นล้านบาท หลังจากคณะกรรมการวัตถุอันตรายของไทยมีมติแบนสารเคมีเกษตร 3 ชนิดไม่กี่วัน ว่า สหรัฐตัดสิทธิ์ gsp ไทยและยังแทรกแซงเรื่องสารพิษเป็นที่รู้กันทั่วประเทศ

บัดนี้คงจะเห็นกันแล้วว่า ที่ออกปากออกเสียง ยืนยันในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาตินั้นว่าเป็นใครและใครรักชาติแต่ปากมาถึงตอนนี้เงียบเป็นเป่าสาก ดีแต่อวดอ้างเอาความรักชาตินั้นมาสร้างความแตกแยกแตกสามัคคีในชาติตัวเอง

ผมรู้ดีว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น จึงได้ทำการวอนพี่น้องผองไทยทุกหมู่เหล่า ให้มาสามัคคีปรองดอง สมานฉันท์กัน ยุติการสร้างความแตกแยกแตกสามัคคีในชาติ ยุติการขับไล่ไสส่งให้ประชาชนไปเป็นฝักฝ่ายอื่น ซึ่งเนื้อแท้ก็คือการบ่อนทำลายชาติและสถาบันทั้งหลายของชาตินั้นเอง ขอเราทั้งหลายจงน้อมนำเอาบทพระคาถาประจำตราแผ่นดิน มาประพฤติปฏิบัติ ด้วยการ สามัคคีปรองดองสมานฉันท์กันเถิด

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายไพศาล แสดงความคิดเห็นกรณีโฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาจี้ถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะรับผิดชอบอย่างไรกับเรื่องนี้ว่า ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น คำถามแบบนี้จะกลายเป็นการชี้นำให้จำนนกับการถูกแทรกแซงบังคับได้ การยกเลิกสารพิษ เป็นประโยชน์สุขของประชาชาติไทยทั้งประเทศใครจะมาแทรกแซงไม่ได้

กรณีนี้เป็นโอกาสอันดีที่รัฐบาลจะสามัคคีปรองดองประชาชาติไทยทั้งผองเข้าเคียงบ่าเคียงไหล่รับมือกับการกดดันแทรกแซงของต่างชาติ และทำให้นโยบายต่างประเทศกลับสู่ความถูกต้องในการสร้างดุลความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ