บิ๊กลือ สั่งชะลอต่อเรือฟรีเกตสมรรถนะสูงลำ 2 ราคา 1.5 หมื่นล้าน

ผบ.ทร. สั่งชะลอต่อเรือฟรีเกตสมรรถนะสูงลำ 2 งบ 1.5 หมื่นล้าน ลุยต่อเรือพี่เลี้ยงเรือดำน้ำและงานช่วยเหลือราคา 6.1 พันล้านแทน

เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้สั่งชะลอโครงการต่อเรือฟรีเกตสมรรถนะสูง ลำที่ 2 จากเกาหลีใต้ราคา 15,000 ล้านบาท ออกไปก่อนหลังจากต่อลำแรก LPD471 หรือเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช จาก Daewoo ที่ใช้งบประมาณ 14,997 ล้านบาท มาแล้ว

ทั้งนี้ เพราะกองทัพเรือเล็งเห็นถึงความสำคัญของการมีเรือยกพลขึ้นบก มากกว่า จึงได้ต่อเรือยกพลขึ้นบก LPD จากจีน 6,100 ล้านบาท ก่อน เพราะเป็นทั้งพี่เลี้ยงเรือดำน้ำและใช้ในงานบรรเทาสาธารณภัย

มีรายงานว่า ในงบประมาณปี 2563 นี้ กองทัพเรือจะเสนอขอผูกพันงบฯ ในการต่อเรือดำน้ำจากจีน เป็นลำที่ 2 จากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไว้ 3 ลำ โดยลำแรก เริ่มต่อไปแล้วเมื่อปี 2561 ผูกพันงบฯ 7 ปี

ส่วนลำที่ 2 ก็จะผูกพันงบ 7 ปี เช่นกันตามแผนกองทัพเรือจะต่อเรือดำน้ำ 3 ลำ ให้จบในงบประมาณรวม 11 ปี รวม 3.6 หมื่นล้านบาท ที่จะต้องเฉลี่ยจ่ายปีละราว 2 พันล้านบาท

ทั้งนี้ ทร.เผยมีแผนในการต่อเรือฟริเกตสมรรถนะสูง 2 ลำ จากเกาหลีใต้ งบฯ ลำละราว 1.5 หมื่นล้านบาท โดยลำแรกต่อจาก Daewoo ไปแล้ว คือ เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช ที่เข้าประจำการไปเมื่อ 7 ม.ค.2562

ผู้สื่อข่าว ระบุว่า ในยุคที่ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ เป็น ผบ.ทร. จนมาถึง พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ เป็น ผบ.ทร. มีแผนที่จะต่อ 2 ลำ โดยลำที่ 2 ทาง Darwoo จะถ่ายทอดเทคโนโลยี่ให้กองทัพเรือไทยมาต่อเองที่ อู่ราชนาวีมหิดล สัตหีบ เพื่อยกระดับการต่อเรือขนาดใหญ่ของ ราชนาวีไทย

แต่ในที่สุดก็ต้องชะลอออกไปก่อน รวมทั้งแผนในการจัดซื้อเครื่องบินลาดตระเวณอีก 3 ลำด้วย เพราะ พล.ร.อ.ลือชัย ต้องการให้ความสำคัญกับ การเตรียมพร้อมรองรับการมีเรือดำน้ำลำใหม่จากจีนที่จะเสร็จช่วงปลายปี 2566 ก่อน โดยต่อเรือ LPD จากจีนเพื่อเป็นเรือพี่เลี้ยง เรือดำน้ำ และเป็นเรือบรรเทาภัยพิบัติ ก่อน

เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือฟรีเกตสมรรถนะสูง ลำแรก