เทวัญ เข้าทำเนียบ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อัญเชิญ "พระนิรันตราย" พระประจำตัว เข้าห้องทำงาน

"เทวัญ" เข้าทำเนียบวันแรก สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อัญเชิญ "พระนิรันตราย" เข้าห้องทำงาน เผยบูชาเป็นพระประจำตัวกว่า 30 ปี  เชื่อทำให้แคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 18 ก.ค.นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา พร้อมด้วยผู้บริหารและ ส.ส.พรรคชาติพัฒนา อาทิ นายดล เหตระกูล เลขาธิการพรรคฯ นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา ผู้อำนวยการพรรคฯ นางสาวเยาวภา บุรพลชัย โฆษกพรรคฯ นายวชิรพล โตมรศักดิ์ ส.ส.นครราชสีมา ได้เดินทางเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นวันแรก โดยได้สักการะศาลพระพรหมบนตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนลงมาสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่และศาลตายาย

จากนั้น นายเทวัญ ได้พาผู้สื่อข่าวขึ้นชมห้องทำงานชั้น 2 ตึกบัญชาการ 1 พร้อมกล่าวว่า ได้บูชาพระนิรันตราย วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมารามราชวรวิหารปี 2515 จากที่ห้องทำงานที่บ้านมาบูชาที่ห้องทำงานแห่งนี้ โดยเป็นพระประจำตัวมานานกว่า 30 ปีแล้ว โดยทุกปีในวันสงกรานต์ก็จะนำพระองค์นี้ออกมาสรงน้ำ และมีพุทธคุณคือมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาสู่ตัว ไม่เคยไม่สิ่งไม่ดี แคล้วคลาดทุกอย่าง เดินทางปลอดภัย เมตตามหานิยม

นายเทวัญ ให้สัมภาษณ์ว่า  การเข้าทำงานที่ทำเนียบฯในวันนี้ ถือฤกษ์สะดวก ถือว่ามาทำงานเพื่อประเทศ  จึงได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ทำเนียบฯ ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ส่วนเรื่องการแบ่งงานนั้น ยังไม่ได้พูดคุยหารือแต่อย่างใด แล้วแต่นายกรัฐมนตรีจะมอบหมาย และไม่ว่าจะได้ดูแลงานส่วนใด ตนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทั้งนี้ ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)นัดแรก นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้การทำงานของรัฐบาลเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะวันนี้รัฐบาลมีพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค จึงต้องทำงานในรูปแบบเดียวกันตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งนายกฯต้องการให้ครม.ทุกคนทำงานให้ดีที่สุดอย่างเต็มที่ และด้วยความซื่อสัตย์  ซึ่งตนก็มั่นใจว่า ถึงแม้รัฐมนตรีจะมาจากหลายพรรคการเมือง ก็จะทำงานร่วมกันเต็มที่ ไม่น่ามีปัญหาอะไร

ส่วนนโยบายของพรรคที่จะถูกนำไปบรรจุในร่างนโยบายรัฐบาลเพื่อแถลงต่อรัฐสภานั้น นายเทวัญ กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาล เป็นนโยบายที่ดีที่ได้มีการรวบรวมนโยบายของแต่ละพรรคมารวมไว้ด้วยกัน ซึ่งในส่วนของพรรคชาติพัฒนามีนโยบายเศรษฐกิจรากหญ้าการกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรมก็ถูกบรรจุไว้ในร่างนโยบายของรัฐบาลเช่นเดียวกันซึ่งทั้งหมดสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว ซึ่งจะเป็นการท้าทายหรือไม่โดยเฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจฐานราก ในช่วงที่มีค่าครองชีพสูงขึ้น เชื่อว่า หลังจากมีการแถลงนโยบายไปแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งนโยบายของรัฐบาลมีทั้งนโยบายเร่งด่วนและนโยบายปกติ โดยจะมีการดำเนินการไปตามขั้นตอนหากทำได้ตามที่วางไว้ทุกอย่างจะประสบความสำเร็จ ส่วนกรณีที่มีการเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ในร่างนโยบายรัฐบาลนั้น จะต้องมีการหารือกันภายในพรรคและพรรคร่วมรัฐบาลด้วย