posttoday

มัลลิกาย้อนจดหมายเปิดผนึกหวังรัฐบาลเดินหน้าแผนสร้างพลังงานทดแทน

15 มิถุนายน 2562

มัลลิกา ย้อนจดหมายเปิดผนึกหวังรัฐบาลเดินหน้าแผนพีดีพีสร้างพลังงานทดแทนเพื่อการพัฒนาประเทศชาติยั่งยืน เสริมเพิ่มพืชเศรษฐกิจให้เกษตรกร ได้เวลาเปลี่ยนแปลงเพื่อความมั่นคงประเทศ

มัลลิกา ย้อนจดหมายเปิดผนึกหวังรัฐบาลเดินหน้าแผนพีดีพีสร้างพลังงานทดแทนเพื่อการพัฒนาประเทศชาติยั่งยืน เสริมเพิ่มพืชเศรษฐกิจให้เกษตรกร ได้เวลาเปลี่ยนแปลงเพื่อความมั่นคงประเทศ

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน นำเสนอผ่าน Facebook เป็นจดหมายเปิดผนึกย้อนข้อมูลที่เคยโพสต์ไว้เมื่อปี 2558 เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ติดตามเรื่องกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเพื่อแผนบริหารนโยบายด้านพลังงานของประเทศอย่างยั่งยืนโดยเฉพาะแผนพัฒนาพลังงานทดแทนที่จะสร้างงานสร้างมูลค่าเศรษฐกิจรวมทั้งช่วยทั้งเกษตรกร และลดโลกร้อนตามภาวะโลกและพันธสัญญาที่ให้ไว้กับนานาประเทศด้วย โดยทั้งหมดอยู่ในยุทธศาสตร์PDP2015 และเชื่อว่าน่าจะมีการปรับปรุงพัฒนาในระยะ 5 ปีนี้มาบ้างแต่แผนนี้ก็ยังมิได้ขับเคลื่อนเพราะนโยบายรัฐบาลไปติดกับดักของบริษัทพลังงานด้านอื่น

นางมัลลิกา กล่าวว่า แผนพัฒนาพลังงานไทยมีพลังงานหลายด้านหนึ่งในนั้นคือการสร้างพลังงานทดแทนซึ่งไม่ได้ทำให้พลังงานด้านอื่นไม่เกิดขึ้นจึงไม่ขัดผลประโยชน์ซึ่งกันและกันตามที่ผู้มีอำนาจกังวล ความจริงแล้วคณะกรรมการ นโยบายพลังงานแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ได้อนุมัติแผนนโยบายพลังงานตามกรอบแผนชาติปีพ.ศ. 2558 ถึง 2579 นั่นคือ PDP2015 มีสาระสำคัญคือการจัดทำแผนพัฒนาชาติด้วยการกระจายสัดส่วนเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม กำหนดกำลังผลิตไฟฟ้าสำรองของประเทศ และกระจายแหล่งผลิตไฟฟ้า แผนนี้ให้ใช้มาตรการผสมผสานทั้งการบังคับและสนับสนุนจูงใจการให้เอกชนเป็นหุ้นส่วนสำคัญในการส่งเสริมและดำเนินการอนุรักษ์พลังงาน ใช้มืออาชีพ และบริษัทจัดการพลังงานเป็นกลไกสำคัญรวมทั้งเพิ่มการพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม

นอกจากนั้นยังเป็นพันธสัญญาของผู้นำในวิถีโลกกับความความตกลง COP21 ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรีประเทศไทยได้เข้าร่วมประเด็นข้อตกลงคือต้องรักษาระดับอุณหภูมิเฉลี่ยโลกสูงไม่เกิน 2 องศาเซลเซียสและนายกรัฐมนตรีได้แสดงเจตจำนงในที่ประชุมเพื่อลดก๊าซเรือนกระจกภายในปี 2573 ลงร้อยละ 20 ถึง 25 นอกจากนั้นยังมีอีกหลายเวทีที่ระดับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของประเทศได้เข้าร่วมประชุมและมีพันธะสัญญากับนานาชาติเกี่ยวกับการผลักดันพลังงานทดแทน

นางมัลลิกา ระบุว่า รัฐบาลชุดนี้ ละเว้นจากการผลักดันด้านพลังงานทดแทนอย่างจริงจังไปร่วม 5 ปีซึ่งเป็นการเสียประโยชน์ประเทศชาติและไม่สนับสนุนพันธสัญญาที่มีต่อนานาชาติรวมทั้งไม่สนับสนุนต่อข้อตกลงที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศไว้ ดังนั้นจึงอยากให้ดำเนินการสร้างพลังงานไฟฟ้าทั้งจากแสงแดดหรือโซล่าฟาร์ม,ลม,ชีวมวล,ชีวภาพ และขยะทั้งหมดช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นชุมชน ประชาชนไม่ต่อต้านเท่ากับพลังงานด้านอื่น เป็นทางรอดของประเทศชาติและอยู่ในยุทธศาสตร์ชาติมาโดยตลอดด้วยที่สำคัญจะทำให้ประเทศชาติไม่เป็นหนี้สาธารณะและจะกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มทางเลือกให้อาชีพเกษตรได้ด้วย เท่ากับได้ช่วยแก้ไขปัญหาเกษตรกรเพิ่มรายได้และขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พลังงานชาติได้อย่างยั่งยืนมั่นคงและมีศักยภาพ เพราะเมื่อเดินหน้าตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนอย่างจิงจังจะมีการลงทุนจากภาคเอกชนทันทีหลายแสนล้านบาท