posttoday

ศาลฎีกาสั่งยึดทรัพย์'หมอโด่ง'อดีตเลขา'บุญทรง'ยกครัว900ล้าน

17 พฤษภาคม 2562

ศาลฎีกาสั่งริบบัญชีเงินฝากยกครัว "หมอโด่ง"อดีตเลขาฯ บุญทรง จำเลยร่วมจีทูจี 7 รายการร่วม 900 ล้านตกเป็นของแผ่นดิน

ศาลฎีกาสั่งริบบัญชีเงินฝากยกครัว "หมอโด่ง"อดีตเลขาฯ บุญทรง จำเลยร่วมจีทูจี 7 รายการร่วม 900 ล้านตกเป็นของแผ่นดิน

ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อเวลา 14.00 น. "นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์" รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวนคดีริบทรัพย์ พร้อมองค์คณะผู้พิพากษารวม 9 คน ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา คดีที่ "อัยการสูงสุด" ยื่นคำร้องให้ศาลพิพากษาให้ทรัพย์สินของ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ หรือหมอโด่ง จำเลยร่วมคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ซึ่งเป็นอดีตเลขานุการของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ จำนวน 896,554,760.28 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน

ทั้งนี้อัยการสูงสุดได้ยื่นคำร้องว่า "พ.ต.นพ.วีระวุฒิ" เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและข้าราชการการเมืองได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการของนายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ และต่อมาได้เป็น เลขานุการ ของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เมื่อวันที่ 24 ส.ค.55 และพ้นจากตำแหน่งวันที่ 30 มิ.ย.56 โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเมื่อวันที่ 20 ม.ค.58 ชี้มูลความผิด"พ.ต.นพ.วีระวุฒิ" ผู้ถูกกล่าวหาว่า ร่วมกับนายบุญทรง กับพวกรวม 113 คน ทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกและการระบายข้าว และร่วมกันสนับสนุนกับนายภูมิ กับพวกรวม 5 คนกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 , 157 ประกอบมาตรา 86 , พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542

คณะกรรมการ ป.ป.ช" มีมติว่า กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าพ.ต.นพ.วีระวุฒิ ผู้ถูกกล่าวหา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งทางการเมืองดังกล่าวนั้น ร่ำรวยผิดปกติ จึงให้แต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง ซึ่งอนุกรรมการไต่สวนแล้ว ก็ปรากฏหลักฐานว่า ระหว่างที่ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ เป็นผู้ช่วยเลขาฯนายภูมิ และขณะเป็นเลขาฯนายบุญทรง ได้มีทรัพย์สินเป็นเงินฝากธนาคาร เงินลงทุนในหลักทรัพย์ ที่ดินสิ่งปลูกสร้าง และยานพาหนะ มูลค่ามากเกินกว่าฐานะและรายได้ที่ พ.ต.วีระวุฒิ ผู้ถูกกล่าวหาแจ้งต่อกรมสรรพากร และมากกว่ารายได้ที่แสดงในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช.

อย่างไรก็ตาม พ.ต.นพ.วีระวุฒิ ผู้ถูกกล่าวหา ยักย้าย ถ่ายเท ซุกซ่อนนำทรัพย์สินของตน มอบให้บุคคลใกล้ชิดรวม 6 คน ครอบครองแทนได้แก่ 1.นางชุฏิมา วัจนะพุกกะ อดีตภรรยา 2.น.ส.อรชุมา วัจนะพุกกะบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 3. พล.ต.ต.วีระวัฒน์ วัจนะพุกกะ บิดา 4.นางอรณี วัจนะพุกกะ มารดา 5.นายสมาน ญาติมิ บิดาอดีตภรรยา และ 6.น.ส.ชุตินันท์ ญาติมิ หลานของอดีตภรรยา

ทั้งนี้อนุกรรมการไต่สวนชั้น ป.ป.ช. ให้ผู้ถูกกล่าวหากับบุคคลดังกล่าวเข้าชี้แจง แต่ผู้ถูกกล่าวหาและบุคคลที่มีชื่อถือครองทรัพย์ฯ ไม่ชี้แจงเหตุผลใด ยกเว้นเพียง น.ส.ชุตินันท์ ที่ได้ชี้แจง แต่อนุกรรมการไต่สวน ก็เห็นว่าคำชี้แจงนั้นไม่อาจรับฟังได้ ต่อมาวันที่ 2 พ.ย.60 คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติเห็นชอบตามความเห็นของอนุกรรมการไต่สวนว่า พ.ต.นพ.วีระวุฒิ ร่ำรวยผิดปกติ รวมมูลค่า 896,554,760.28 บาท และอัยการสูงสุด ได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ พิพากษาให้ทรัพย์สินดังกล่าวพร้อมดอกผลนั้นตกเป็นของแผ่นดิน

ศาลฎีกาฯ พิเคราะห์พยานหลักฐานตามคำร้องของอัยการสูงสุด และตามทางไต่สวนประกอบรายงานของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. แล้ว เห็นว่าบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินที่ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ ยื่นไว้ต่อ ป.ป.ช.ประกอบด้วยที่ดิน รถยนต์ หลักทรัพย์ และบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆ ญาติและคนสนิทของผู้ถูกกล่าวหา มีมูลค่าสูงไม่สอดคล้องกับรายได้ที่มีอยู่ ซึ่งบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญให้เป็นภาระของ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ ผู้ถูกกล่าวหา ต้องพิสูจน์ว่าทรัพย์สินที่ได้มานั้นเป็นทรัพย์สินที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หรือไม่มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ แต่ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ ผู้ถูกกล่าวหาไม่มาพิสูจน์ ศาลจึงฟังพยานของอัยการสูงสุดและหลักฐานของ ป.ป.ช. เห็นว่า ทรัพย์สินทุกรายการตามฟ้องเป็นทรัพย์สินของพ.ต.นพ.วีระวุฒิ ซึ่งได้มาจากพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติตามหลักฐานของคณะกรรมการ ป.ป.ช.รวบรวมมา

องค์คณะผู้พิพากษาจึงพิพากษาว่า ทรัพย์สินตามคำร้องนั้น เป็นทรัพย์สินที่ "พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ" ผู้ถูกกล่าวหามีเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ อันเป็นการร่ำรวยผิดปกติ จึงให้ทรัพย์สินดังกล่าวรวมมูลค่า 896,554,760.28 บาท พร้อมดอกผลตกเป็นของแผ่นดิน หากไม่อาจบังคับคดีเอาทรัพย์สินตามที่วินิจฉัยมาข้างต้นได้ทั้งหมดหรือได้แต่บางส่วน ให้บังคับคดีเอาทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาได้ภายในอายุความ 10 ปี แต่ต้องไม่เกินมูลค่าของทรัพย์สินที่ศาลสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดิน

สำหรับทรัพย์สินที่ศาลให้ตกเป็นของแผ่นดิน ประกอบด้วย 1.บัญชีเงินฝากธนาคารชื่อ "พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ" ผู้ถูกกล่าวหา 79,389,106.02 บาท 2.บัญชีเงินฝากชื่อ นางชุฏิมา อดีตภรรยา 367,313,172 บาทเศษ 3.บัญชีเงินฝากชื่อ น.ส.อรชุมา บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 41,607,000 บาท 4.บัญชีเงินฝากชื่อนางอรณี มารดาผู้ถูกกล่าวหา 357,555,747 บาทเศษ 5.บัญชีเงินฝากชื่อ พล.ต.ต.วีระวัฒน์ บิดาผู้ถูกกล่าวหา 43,388,526.50 บาท 6.บัญชีเงินฝากชื่อนายสมาน ญาติมิ บิดาของอดีตภรรยา 5,901,267.90 บาท 7.บัญชีเงินฝากชื่อ น.ส.ชุตินันท์ หลานของอดีตภรรยา มูลค่า 1.4 ล้านบาท

สำหรับ พ.ต.นพ.วีระวุฒิ หรือหมอโด่งนั้น ก็ตกเป็นจำเลยร่วมคดีกับนายบุญทรง ทุจริตระบายข้าวแบบจีทูจีด้วย แต่ระหว่างดำเนินคดี พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ ได้หลบหนีไป ซึ่งศาลฎีกาฯ ได้ออกหมายจับให้ติดตามกลับมาดำเนินคดีไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ตัวมา กระทั่งเมื่อมีการแก้ไขกฎหมายใหม่ (วิ อม.) ให้ศาลพิจารณาคดีโดยไม่มีตัวจำเลยได้ อัยการสูงสุด จึงได้ยื่นคำร้องขอให้นำคดีอาญาขึ้นมาพิจารณาใหม่โดยไม่มีตัวจำเลย ซึ่งขณะนี้คดีอาญานั้น อยู่ระหว่างการไต่สวนพยานของศาลฎีกาฯ