ชพน.สารภาพได้สส.ต่ำเป้า"ลูกนา"ปลุกสมาชิกอย่าท้อ

ชทพ.ประชุมใหญ่สามัญถก บทเรียน24 มี.ค.รับได้ส.ส.ต่ำกว่าเป้าปลุกใจสู้กันต่อเชื่อเลือกตั้งไม่ได้มีครั้งเดียว“ประภัตร” ยก“วราวุธ” คือความหวังอีก10 ปีมีสิทธิเป็นนายกฯ

พรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ที่ จ.สุพรรณบุรี โดย มี น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยแกนนำพรรคร่วมประชุมคับคั่ง ทั้งนี้ น.ส.กัญจนา กล่าวในที่ประชุมตอนหนึ่งว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมา หลายคนสมหวัง หลายคนผิดหวัง แต่เราจะสู้กันต่อไป จะไม่ท้อถอย เพราะการเลือกตั้งไม่ได้มีขึ้นเพียงแค่หนเดียว

น.ส.กัญจนา กล่าวอีกว่า เชื่อว่าการเมืองอยู่ที่ผลงานที่เป็นรูปธรรมและแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้แท้จริง ไม่ใช่อาศัยเพียงกระแสทางโซเชียลมีเดียเท่านั้น ทั้งนี้เป็นห่วงเรื่องการใช้สื่อโซเชียลมีเดียสร้างกระแส แม้ความชัดเจนไม่เกิดขึ้น และหวังว่าการเลือกตั้งไม่สูญเปล่า ได้รัฐบาลที่เข้มแข็ง ตรวจสอบการทำงานได้ ไม่ใช่เป็นรัฐบาลที่ไม่สามารถท้วงติงได้ อย่างไรก็ตามพรรคชาติไทยพัฒนาจะร่วมเดินหน้าทางการเมือง ไม่หยุดเฉพาะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

ด้าน นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวยอมรับว่าพรรคได้รับเลือกตั้งน้อยกว่าที่ตั้งเป้าหมาย และไม่ทราบว่าจะได้ ส.ส.เข้าสู่สภาฯ จำนวน 10 หรือ 11 ที่นั่ง แต่ทั้งนี้เห็นใจกกต.เหมือนเป็นกระโถนท้องพระโรง เพราะต้องรับแรงกดดันจากทุกฝ่าย อีกทั้งต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายบัญญัติ ซึ่งตีความการปฏิบัติได้หลายแบบ ดังนั้นตนมองว่าไม่ควรกดดันการทำงานของ กกต.

นายวราวุธ กล่าว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมาคืดว่าโกลาหล เพราะไม่มีบทเฉพาะกาล และ มาตรา 44 และไม่ทราบว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป กติกาหรือระเบียบเลือกตั้งจะปรับแก้ไขหรือไม่ ทั้งนี้ความโกลาหลที่เกิดขึ้นส่วนตัวมองว่า จะมาจากการกำหนดให้ทำไพรมารี่โหวต จึงขอฝากไปยังสมาชิกต่อการทำงานการเมือง ต้องยึด 3 สิ่ง คือ มีคนทำงาน, มีเงิน เป็นปัจจัยการทำงาน และมีใจในการทำงานพรรคการเมือง เพราะการทำงานการเมือง สิ่งสำคัญต้องมีใจ แม้จะมีเงินมากล้นฟ้า มีคนมากทำงานให้ แต่หัวหน้าทีมไม่มีใจทำ การทำงานไม่เกิดประโยชน์ รวมถึงต้องทำงานให้ต่อเนื่อง ทั้งนี้ผมขอให้กำลังใจ

อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งที่ผ่านมาวมีกระแสเกิดขึ้นหลากหลาย ทั้งล้มช้าง และกระแสคนรุ่นใหม่ อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีความพยายามให้เกิดสงครามทางความคิด ระหว่างคนรุ่นใหม่ และคนรุ่นเก่า หรือ คนรุ่นใหญ่ ซึ่งตนมองว่าเป็นสิ่งที่คิดผิด เพราะการทำงานการเมืองต้องใช้การผสมผสานการทำงานระหว่างคนรุ่นใหม่ และคนรุ่นใหญ่ ทั้งนี้คนรุ่นใหม่ต้องให้เกียรติ เคารพ และฟังความคิดเห็น รวมถึงฟังประสบการณ์จากคนรุ่นใหญ่ ขณะที่คนรุ่นใหญ่ต้องอดทนกับบุคลิกของคนรุ่นใหม่ ที่ใจร้อนและคิดทำเร็ว

ด้านนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า พรรคต้องเป็นปึกแผ่น มั่นคง วันนี้เราได้เห็นคนรุ่นใหม่ในพรรค ที่ผ่านมา ตนให้กำลังใจนายวราวุธ เสมอว่า นายทำได้ จึงเชื่อเหลือเกินว่าพรรคจะก้าวไปอย่างมั่นคง นายวราวุธ คือความหวังของพวกเรา อีก 10 ปีข้างหน้า นายวราวุธ จะก้าวขึ้นมาเป็นนักการเมืองแถวหน้า และอาจจะมีโอกาสเป็นนายกฯเหมือนกับนายบรรหาร ศิลปอาชา จึงอยากฝากสมาชิกทุกคนว่า นายวราวุธ จะไปคนเดียวไม่ได้ ทุกคนต้องผลักดันแล้วไปด้วยกัน