posttoday

ผู้สมัครสส.อนาคตใหม่เขต1นครปฐมเฮ กกต.สั่งนับคะแนนใหม่

18 เมษายน 2562

กกต.มีมติสั่งนับคะแนนใหม่ในเขตเลือกตั้งที่1จ.นครปฐมหลังพบหลักฐานนับคะแนนผิด ผู้สมัครส.ส.อนาคตใหม่ มีลุ้น

กกต.มีมติสั่งนับคะแนนใหม่ในเขตเลือกตั้งที่1จ.นครปฐม พร้อมสั่งจัดเลือกตั้งใหม่หนึ่งหน่วยในเขต2จ.ชุมพร หลังพบจำนวนกับผู้ใช้สิทธิ์กับบัตรไม่ตรงกัน

นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) แถลงว่า ที่ประชุม กกต. มีมติให้ทำการนับคะแนนใหม่ ในเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดนครปฐม ทุกหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งมี 236 หน่วย และ 9 หน่วยนอกเขตเลือกตั้ง และนอกราชอาณาจักร เนื่องจากมีหลักฐานอันควรเชื่อว่าเป็นการนับคะแนนไม่ถูกต้อง

สำหรับปัญหาการนับคะแนนที่ เขต1ที่จังหวัดนครปฐม นั้น น.ส.สาวิกา ลิมปะสุวัณณะ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ได้ยื่นหนังสือให้กกต. รวมคะแนนและนับคะแนนใหม่ หลังขอดูคะแนนทุกหน่วยและลองรวมคะแนนด้วยตนเองพบว่า มีคะแนนเพิ่มขึ้นจากที่มีการประกาศผลเดิม 151 คะแนน รวมเป็น 35,766 คะแนน ขณะที่คะแนนของผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ มีคะแนน 35,762 คะแนน ซึ่งเท่ากับว่าพรรคอนาคตใหม่พลิกกลับมาชนะการเลือกตั้ง 4 คะแนน

ทั้งนี้ผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ที่กกต.ประกาศนั้น พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ มีคะแนนนำเป็นลำดับที่ 1 ได้ 35,762 คะแนน น.ส.สาวิกาได้ 35,615 คะแนน เป็นลำดับที่ 2 ห่างกัน 147 คะแนน

นอกจากนี้กกต. ยังสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 1 หน่วยเลือกตั้ง ได้แก่เขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดชุมพร หน่วยเลือกตั้งที่ 9 หมู่7 บ้านดวงดี ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าแซะ โดยกำหนดให้มีการลงคะแนนในวันที่ 28 เมษายน เนื่องจากปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผลการนับคะแนนมีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ออกเสียงลงคะแนน

ขณะเดียวกัน ยังสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ 5 จังหวัด 6 หน่วยเลือกตั้ง โดยให้ไปใช้สิทธิในวันที่ 21 เมษายน ตั้งแต่เวลา 08:00 น. -17:00 น. อย่างพร้อมเพรียงกัน โดยเน้นย้ำให้สำนักงานการเลือกตั้งประจำจังหวัดเตรียมความพร้อมการจัดการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริตโปร่งใสและชอบด้วยกฎหมายสำหรับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแต่ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งจะต้องเสียภาษีหากไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม หากผู้ที่มีสิทธิลงคะแนนแต่ไม่ได้ใช้สิทธิในวันที่ 24 มีนาคม แต่หากมาใช้สิทธิในวันที่ 21 เมษายน ก็สามารถมีสิทธิในการเลือกตั้งได้ตามปกติ ส่วนการพิจารณาใบเหลือง ใบแดง และใบส้ม มีประมาณ 20 สำนวณ ซึ่ง กกต. กำลังเร่งพิจารณาเพื่อให้ทันการประกาศรับรองผลในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้