posttoday

กกต.รับถึงทางตันต้องส่งศาลรธน.ช่วยการันตีไม่ให้ขัดรธน.

12 เมษายน 2562

ประธานกกต.แจงเหตุส่งศาลรธน.ชี้วิธีคำนวณส.ส.ตามกม.เลือกตั้งม.128 สอดคล้องรธน.ม.91(4) หรือไม่ ไม่รับประกันเสร็จทัน 9 พ.ค. แต่ยืนยันรับรอง 95 เปอร์เซนต์ได้เข้าสภา

ประธานกกต.แจงเหตุส่งศาลรธน.ชี้วิธีคำนวณส.ส.ตามกม.เลือกตั้งม.128 สอดคล้องรธน.ม.91(4) หรือไม่ ไม่รับประกันเสร็จทัน 9 พ.ค. แต่ยืนยันรับรอง 95 เปอร์เซนต์ได้เข้าสภา

เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 62 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า เหตุผลที่ กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวิธีคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เนื่องจากวิธีคำนวณตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 ซึ่งสอดคล้องกับวิธีของกรธ. สามารถจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อพึงมีได้ครบ 150 คน แต่อาจไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา 91 (4) ที่ระบุเป็นหลักการว่า ในการจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อจะเกินจำนวน ที่พึงมีไม่ได้ คือถ้าไม่ถึง 1.00 แล้วไปจัดสรรให้ที่ต่ำกว่า 0 อาจถือได้ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ประเด็นนี้จึงควรหาข้อยุติให้ได้เสียก่อน

แม้ว่าวิธีการคำนวณตามมาตรา 128 ของกฎหมายลูกว่าด้วย ส.ส.จะจัดสรรได้ครบ 150 คน แต่อาจติดขัดต่อประเด็นว่าการจัดสรรนี้ จะทำให้พรรคการเมืองบางพรรคได้ ส.ส.เกินพึงมีหรือไม่

ส่วนที่ก่อนหน้านี้ กกต.ออกเอกสารข่าวชี้แจงว่าจะมี 25 พรรคได้รับการจัดสรร ก็เป็นวิธีการคำนวณเบื้องต้นของสำนักงานฯ ซึ่งเขาก็ยึดตามรัฐธรรมนูญตามที่ กรธ.เสนอและแปลไว้เป็นรัฐธรรมนูญมาตรา 91 และพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 128 ซึ่งในมาตรา 91 วรรค 3 กำหนดว่าหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณคิดอัตราส่วนให้เป็นไปตาม พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.

และการคำนวณของสำนักงานก่อนหน้านี้เป็นการคำนวณจากคะแนนเบื้องต้นที่มีอยู่ของแต่ละพรรคการเมือง ไม่ใช่คะแนนสุดท้าย แต่เราก็เห็นว่าแม้จะจัดสรรได้ครบ 150 ที่นั่งแต่ก็อาจจะขัดต่อมาตรา 91 (4) ซึ่งวิธีการคำนวณอื่นๆ ก็เช่นกัน อาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่

อย่างไรก็ตาม คิดว่าการส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยจะไม่กระทบต่อการที่ กกต.จะประกาศรับรอง ส.ส.ร้อยละ 95 และไม่ขอก้าวล่วงการวินิจฉัยของศาลว่าจะวินิจฉัยแล้วเสร็จก่อนวันที่ 9 พ.ค.นี้หรือไม่


ประธาน กกต.ยังกล่าวด้วยว่า หากคำนวณตามวิธีการของ กรธ.ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 128 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จะทำให้จัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อได้ครบ 150 คน เพราะนำเศษทศนิยมมาคิดซึ่งทราบมาว่า การคำนวณส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของ กรธ.นั้น ได้วางหลักคิดคำนวณไว้ ส.ส.บัญชีรายชื่อไว้ก่อน และเมื่อหารือกันแล้วเห็นพ้องกันว่าหลักคิดคำนวณดังกล่าวจะเป็นวิธีการคำนวณ ส.ส.พึงมี จึงนำไปเขียนเป็นมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญ

ฉะนั้นวิธีการคำนวณที่ กรธ.คุยกันจึงเป็นที่มาของมาตรา 91 ไม่ใช่มีการบัญญัติมาตรา 91 ก่อน และค่อยหาวิธีคำนวณ แต่เนื่องจากวิธีคิดมีความยาว กรธ.จึงนำไปใส่ไว้ในกฎหมายลูกแทน

“ยังมีข้อถกเถียงกันถึงเลขทศนิยม ที่น้อยกว่า 1 เช่น 0.8 จะถือว่าเกินกว่าจำนวน ส.ส.ที่พึงมีหรือไม่ เพราะศูนย์อยู่ข้างหน้า ผู้รู้คณิตศาสตร์บอกว่าเลขศูนย์ก็เป็นเลขที่นำมาคำนวณได้ แล้วจู่ๆ จะไปตัดทิ้ง ทั้งนี้ การคำนวณมาตรา 91 ในครั้งนั้นไม่มีใครคิดว่าจะมีพรรคใดได้จำนวน ส.ส.มากกว่าจำนวน ส.ส.พึงมี ซึ่งวิธีการนี้ก็มีวิธีคิดที่ กรธ.ติดไว้ข้างฝามานานแล้วก่อนเขียนเป็นตัวกฎหมาย”

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดถึงไม่สามารถคำนวณตามเจตนารมณ์ได้อย่างเดียว ประธาน กกต.ระบุว่า เมื่อนำ 2 มาตรามาพิจารณา ความจริงแล้วมาตรา 128 ของ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.มีที่มาจากมาตรา 91 แห่งรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อมาตรา 91 อนุ 4 ตัวอักษรเขียนไว้เช่นนี้ ปัญหาเกิดขึ้นว่าจะต้องยึดสิ่งใด กกต.คงต้องถือตัวอักษรที่ระบุในกฎหมาย ส่วนการตีความตามเจตนารมณ์เป็นเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณา

“ดังนั้น เมื่อตัวอักษรเขียนแบบนี้คงถึงทางตันที่ไม่สามารถตัดสินในเรื่องนี้เองได้จึงต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญช่วยวินิจฉัย เพราะเป็นประเด็นที่เกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ ซึ่งการที่ กกต.จะประกาศผลนั้นจะต้องมีความมั่นใจในเรื่องนี้ว่าสิ่งที่เราจะดำเนินการขัดหรือไม่”