กกต.โชว์การคัดแยกบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า ยืนยันตรวจสอบคนสวมสิทธิได้

"กกต."พาสื่อดูคัดแยกบัตรลงคะแนนล่วงหน้าแจงการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีการพิมพ์ลายนิ้วมือบนบัตรแต่ใช้การเซ็นชื่อบนต้นขั้ว มั่นใจตรวจสอบได้หากมีคนสวมสิทธิ

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้นำคณะสื่อมวลชนเข้าตรวจดูห้องคัดแยกบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า ภายในไปรษณีย์หลักสี่ โดยระบุว่าขณะนี้บัตรเลือกตั้งจากหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 395 หน่วยทั่วประเทศ ส่งมาถึงที่ไปรษณีย์หลักสี่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการคัดแยก ซึ่งจะดำเนินการคัดแยกให้เร็วที่สุด ก่อนส่งไปยังเขตเลือกตั้งต่างๆ 350 เขตเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 22 มีนาคม

“ในส่วนของการจัดส่งจะใช้รถของไปรษณีย์ไทยที่มีการติด GPS พร้อมจัดรถเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกันตลอดเส้นทาง และหากพรรคการเมืองใดต้องการเข้ามาดูการคัดแยกบัตรเพื่อความโปร่งใสก็สามารถเข้ามาติดต่อ ประสานผ่านทาง กกต. ขอดูได้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีพรรคการเมืองใดติดต่อเข้ามา”นายอิทธิพร กล่าว

ขณะที่ นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการ กกต. กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ที่ไม่มีการพิมพ์ลายนิ้วมือบนบัตรเลือกตั้งเหมือนเช่นการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา โดยใช้เพียงการเซ็นชื่อบนต้นขั้วนั้น ซึ่งตามขั้นตอนที่ถูกต้องแล้วจะใช้การเซ็นชื่อบนต้นขั้ว แต่ในการลงประชามติครั้งที่ผ่านมา ถือเป็นกิมมิกใหม่ของอดีต กกต. ที่คิดให้มีการพิมพ์ลายนิ้วมือแทนการเซ็นชื่อ

“ยืนยันว่าแม้จะใช้การเซ็นชื่ออย่างเดียว ก็ไม่มีความแตกต่างกัน และก็สามารถตรวจสอบได้ว่าใครเป็นผู้มาใช้สิทธิ” รองเลขาฯ กกต. ระบุ

ส่วนที่มีผู้กังวลว่าอาจทำให้มีการสวมสิทธิกัน ยืนยันว่าสามารถส่งลายเซ็นบนต้นขั้วไปตรวจสอบ เพื่อยืนยันตัวบุคคลได้ที่กองพิสูจน์หลักฐาน ขอให้มั่นใจในความโปร่งใสของ กกต.

สำหรับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่มีเจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งให้บัตรผิดเขตและมีการวินิจฉัยว่าเป็นบัตรเสียนั้น ซึ่งในเรื่องนี้ตนถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และขอชี้แจงว่าในความหมายที่พูด คือ ต้องการให้ผู้ใช้สิทธิรักษาสิทธิของตนเอง หากได้รับบัตรผิดเขตก็ขอให้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่เพื่อให้ได้รับบัตรที่ถูกต้องมา

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะเป็นบัตรเสียหรือไม่นั้นต้องรอวันที่ 24 มีนาคมในการนับคะแนน หากนำบัตรออกมานับคะแนนและพบว่าไม่ตรงตามเขต จะถือว่าเป็นบัตรเสียทันที แต่หากพบระหว่างการคัดแยกบัตร ก็สามารถที่จะส่งไปยังเขตที่ถูกต้องได้ก่อนให้คณะกรรมการประจำเขตพิจารณา และเรื่องนี้ต้องเข้าใจว่าในเชิงระบบทุกอย่างต้องเดินหน้าต่อไปตามกระบวนการ

รองเลขาฯ กกต. กล่าวด้วยว่า กรณีที่มีผู้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของกกต. ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบหากพบว่ามีการบิดเบือนข้อเท็จจริง และทำให้กกต. เสียหายจะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาฯ กกต. กล่าวถึงกรณีการวินิจฉัยคุณสมบัติพล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าเป็นเจ้าพนักงานของรัฐหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของสำนักงาน กกต. ที่จะส่งเรื่องมาถึงคณะกรรมการ กกต.