พปชร.รอด!กกต.สอบไม่พบต่างชาติบริจาคโต๊ะจีน

เลขากกต. เผย ผลสอบโต๊ะจีนพปชร.ไม่พบต่างชาติบริจาค ไม่มีความผิดเข้าข่ายยุบพรรค มั่นใจเอกสารผู้สมัครบกพร่องไม่เป็นเหตุทำเลือกตั้งโมฆะ

เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงการพิจารณาคดีพรรคพลังประชารัฐจัดโต๊ะจีนระดมทุน ว่า ได้ตรวจสอบผู้บริจาคแล้ว ซึ่งมีนิติบุคคล 40 แห่ง และบุคคล 84 คนไม่พบบุคคลต่างชาติร่วมบริจาคเงิน จึงถือว่าไม่มีความผิดและไม่เข้าข่ายถึงขั้นยุบพรรค หลังจากนี้จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม กกต.ต่อไป ส่วน คำร้องที่ให้วินิจฉัยสถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าข่ายการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ ว่า กำลังเตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการกกต.ให้พิจารณา

ส่วนปัญหาเรื่องความผิดพลาดเกี่ยวกับเอกสารแจ้งเจ้าบ้าน เลขากกต.กล่าวว่า  เกิดจากมีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก ประกอบกับมีการเพิกถอนสิทธิการรับสมัครเลือกตั้งจึงทำให้เอกสารแจ้งเจ้าบ้านมีความบกพร่อง ซึ่งกกต.ได้แจ้งให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตชี้แจง และ กกต.เองจะพยายามประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ ซึ่งเมื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 17 มี.ค. หรือการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 มี.ค.ก็ขอให้ดูข้อมูลล่าสุดที่หน้าหน่วยเลือกตั้ง ที่จะมีบัญชีรายชื่อผู้สมัคร รวมทั้งแจ้งว่าผู้สมัครคนใดถูกเพิกถอนสิทธิ ประกอบกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถตรวจสอบรายละเอียดของผู้สมัคร และบัญชีลำดับการใช้สิทธิของผู้มีสิทธิได้ ด้วยการโหลดแอพพลิเคชั่นสมาร์ทโหวต ที่มีการปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยทั้งผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อ และระบบเขต ซึ่งการศึกษาผ่านสมาร์ทโหวตดังกล่าวจะทำให้ทราบลำดับการใช้สิทธิซึ่งจะทำให้การใช้สิทธิไม่ล่าช้า แต่ถ้าไม่อัพเดตก็สามารถดูข้อมูลที่หน้าหน่วยเลือกตั้งได้อีกครั้งหนึ่ง

เมื่อถามว่าความผิดพลาดดังกล่าวจะทำให้ถูกร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ กล่าวว่า ความผิดพลาดเรื่องเอกสารและการถอนสิทธิผู้สมัครนั้น ตนเชื่อว่าผู้มีสิทธิคงมีคนและพรรคที่จะเลือกอยู่ในใจ เพียงแต่ขอให้ไปดูว่าผู้สมัครที่จะเลือกถูกถอนสิทธิในการรับสมัครหรือไม่ ประกอบกับในปัจจุบันทางสื่อโทรทัศน์ก็มีการจัดดีเบตและแถลงนโยบายของพรรคต่างๆ ค่อนข้างมาก จึงน่าจะเป็นทางเลือกให้ผู้มีสิทธิ ส่วนจะมีการฟ้องร้องภายหลังการเลือกตั้งหรือไม่ คงเป็นสิทธิที่สามารถฟ้องได้ แต่กกต.ก็ได้ออกเอกสารใบแก้ไปแล้ว คงไม่ทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ซึ่งที่ผ่านมาการที่ศาลจะสั่งให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ มีเพียงการเลือกตั้งที่ไม่เป็นไปโดยตรงและลับ และการไม่จัดเลือกตั้งในวันเดียวกันเท่านั้น

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวให้ความมั่นใจถึงการเตรียมความพร้อมการจัดเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 17 มี.ค.นี้ว่า มีการลงทะเบียนขอใช้สิทธิกันเป็นจำนวนมาก ได้มีการจัดเตรียมหีบบัตร คูหาไว้เพียงพอ รวมทั้งมีการแต่งตั้งกรรมการประจำหน่วยสำรองไว้ด้วย เบื้องต้น กกต.ได้ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้มีสิทธิ โดยเฉพาะด้านการจราจร นอกจากนี้ยังจัดรถสุขา และรถพยาบาลไว้ตามหน่วยเลือกตั้งด้วย ประกอบกับ กกต.ทั้ง 7 คน ก็เป็นห่วง จึงจะลงพื้นที่โดยจะแบ่ง กกต.และมอบหมายให้รองเลขาธิการ กกต.กระจายกับไปตรวจดูหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้า ในพื้นที่ต่างๆ

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ยังยืนยันว่า กรณีสถานทูตมาเลเซียใช้ลังกระดาษทำคูหาเลือกตั้งนั้น เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งยังถือว่าเป็นการเลือกตั้งโดยตรงและลับ ทั้งนี้ทางสถานทูตได้จัดการเลือกตั้งที่สถานทูต และจัดรถโมบายไปยังจุดต่างๆ เพียงแต่มีผู้มาใช้สิทธิที่สถานทูตเป็นจำนวนมาก ไม่เกี่ยวกับเรื่องงบประมาณ พร้อมกันนี้เลขาธิการ กกต.ยังย้ำว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยเฉพาะการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่ยังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ห้ามถ่ายรูปบัตรเลือกตั้งที่มีการลงคะแนนแล้ว เพราะถือว่ามีความผิดอาญาและสามารถเอาผิดได้แม้ความผิดจะเกิดนอกราชอาณาจักรก็ตาม