posttoday

"ตีตกนาฬิการหรู"ป.ป.ช.เตรียมรับการตรวจสอบของประชาชน

30 ธันวาคม 2561

ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา'35ชี้มติป.ป.ช.5ต่อ3ตีตกนาฬิกาหรูบิ๊กป้อมตอบแทนบุญคุณส่วนตัวทำลายหลักนิติรัฐและหลักการถ่วงดุลตรวจสอบ

ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา'35ชี้มติป.ป.ช.5ต่อ3ตีตกนาฬิกาหรูบิ๊กป้อมตอบแทนบุญคุณส่วนตัวทำลายหลักนิติรัฐและหลักการถ่วงดุลตรวจสอบ

นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา'35 กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)มีมติ 5 ต่อ3ตัดสินคดีนาฬิกาหรู ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ไม่มีมูลเพียงพอว่าจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และยุติการตรวจสอบไปแล้ว ว่า มติดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจต่อสังคมเป็นวงกว้าง เพราะขัดต่อความรู้สึก และข้อเท็จจริง และขัดต่อหลักการกฎหมายที่ใช้บริหารประเทศอย่างที่ไม่สามารถจะยอมรับได้จึงขอเตือนสำนึกของกรรมการป.ป.ช.ทั้ง 5 คนว่าพวกท่านได้กระทำการร้ายแรงต่อชาติบ้านเมืองอย่างไม่น่าให้อภัยแม้จะเข้าใจว่ากระทำด้วยความสำนึกในบุญคุณของ พล.อ.ประวิตร และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. ที่ทำให้ไม่ต้องมีการสรรหากรรมการป.ป.ช.ชุดใหม่ ภายหลังมีกฎหมายป.ป.ช.ฉบับใหม่ แล้ว

"การตอบแทนบุญคุณส่วนตัวซึ่งเป็นเรื่องที่ประเสริฐ แต่พวกท่านไม่แยกแยะ กล้ากระทำการเอาเรื่องส่วนตัวไปตอบแทนความดีของคนอื่น โดยเอาหลักการบ้านเมืองหรือผลประโยชน์ของประเทศชาติไปแลกกับบุญคุณส่วนตัว  ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะเป็นการทำลาย หลักนิติรัฐ นิติธรรม หลักการถ่วงดุลตรวจสอบ ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง ตัวอย่างเช่น กรณีคดีความของนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม และการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ของบุคคลอื่นอีกหลายราย ที่นำเรื่องส่วนตัวไปชดใช้ ทดแทนบุญคุณ โดยไม่นำพาความถูกต้องของชาติบ้านเมืองก็ถูกลงโทษไปแล้ว  ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เลวร้ายยังไม่สามารถให้อภัยได้ การกระทำของท่านได้สร้างความเสียหาย ให้แก่ชาติบ้านเมืองสุดจะให้อภัย จึงขอให้ท่านเตรียมตัวว่าประชาชนก็จะตรวจสอบ และจะลงโทษพวกท่านให้สาสมกับความผิดที่ได้กระทำต่อชาติบ้านเมืองต่อไป"นายอดุลย์ กล่าว

นายอดุลย์ กล่าวต่อว่า สังคมไทยทราบดีว่าการทุจริตประพฤติมิชอบของนักการเมือง พรรคการเมืองกลุ่มคนที่มีอำนาจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารยึดอำนาจได้ทำการทุจริตประพฤติมิชอบ อย่างกว้างขวางมากกว่ายุคใดๆ โดยไม่แยแสและไม่ยอมให้มีการตรวจสอบโดยใช้อำนาจเด็ดขาด และเห็นชัดเจนจะมีการสืบทอดอำนาจ เพื่อจะมีอำนาจในการควบคุมคดโกงต่างๆ ซึ่งปัญหาการทุจริตทำให้ประเทศชาติเสียหายมาตลอดไม่ต่ำกว่า 30 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นประชาชนคนไทยจึงสมควรที่จะต้องพิจารณาให้รอบคอบในช่วงการเลือกตั้ง เพื่อแสดงประชามติว่าไม่ต้องการการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลที่เต็มไปด้วยการทุจริตประพฤติมิชอบและไม่สามารถตรวจสอบได้ ในการเลือกตั้ง วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ที่จะมาถึงเป็นการ ลงโทษให้ระบบเลวร้ายนี้ ออกไปจากสังคมไทย และขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองทุกพรรคที่ไม่เห็นชอบกับการทุจริตคดโกงบ้านเมืองทำการตรวจสอบย้อนหลังการกระทำทุกโครงการของรัฐบาลทหารคสช.โดยพล.อ.ประยุทธ์ และพวก หลังการเลือกตั้งและมีรัฐบาลใหม่แล้ว