นักมวยชกไม่สมศักดิ์ศรี! "หมวดเจี๊ยบ"เปรียบ"บิ๊กตู่"ถ้าลงชิงเก้าอี้ผู้นำแต่ไม่สละอำนาจ

รองโฆษกพรรคเพื่อไทย มองการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ลาออกจากตำแหน่งทั้งที่มีข่าวเป็นแคนดิเดตนายกฯพรรคการเมืองจะทำให้หมดความสง่างาม

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.  ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง หรือ หมวดเจี๊ยบ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ถึงแม้ว่าตอนนี้ กกต.จะบอกว่าไม่ห้ามต่างชาติเข้ามาสังเกตการณ์เลือกตั้งในไทย แต่ก็น่าจะสายเกินไปแล้ว เพราะต่างชาติคงจะเตรียมตัวไม่ทัน เนื่องจากการเข้ามาสังเกตการณ์ของต่างชาตินั้น ต้องมีขั้นตอนมากมาย ซึ่งต้องใช้เวลา เช่น การเตรียมคณะทำงานและการขออนุมัติเดินทาง ซึ่งแต่ละประเทศมีนโยบายแตกต่างกัน

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องของวีซ่า เพราะแต่ละประเทศมีข้อตกลงและเงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศไทยไม่เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ คือ เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ที่ผ่านมารัฐบาลไทยไม่ได้แสดงความจริงใจที่จะเชิญต่างชาติเข้ามาสังเกตการณ์เลือกตั้งทั้งๆที่ต่างชาติทวงถามเรื่องนี้มาเป็นปีๆ แล้วทั้งยังพูดปฏิเสธผ่านสื่อหลายครั้ง แต่พอใกล้ๆ เวลาจะถึงวันเลือกตั้งและโดนกดดันหนัก กกต.จึงเพิ่งมาพูดว่าไม่ได้ห้ามต่างชาติเข้ามาสังเกตุการณ์ ซึ่งรัฐบาลคงจะรู้อยู่แก่ใจเช่นกันว่าต่างชาติเขามาไม่ทันแน่ๆ แล้ว

และอันที่จริง แค่บอกว่า กกต.ไม่ห้ามแล้วก็ยังไม่พอ แต่รัฐบาลต้องเชิญต่างชาติมาร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งในไทยอย่างเป็นทางการด้วย เขาจึงจะมาได้ อย่างไรก็ตามต่อให้รัฐบาลเชิญเขาจริงๆ แต่มาเชิญเอาป่านนี้ก็คงจะไม่ทันแล้วสำหรับหลายๆ ประเทศ ซึ่งสะท้อนถึงความเจ้าเล่ห์ของรัฐบาล ที่เป็นโรคกลัวการตรวจสอบจนขึ้นสมอง แต่ถ้าไม่ได้คิดโกงเลือกตั้ง แล้วจะกลัวทำไมกับการตรวจสอบ

รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทั้งๆที่เตรียมตัวจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในนามพรรคพลังประชารัฐ ก็จะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ หมดความสง่างาม ถ้าเปรียบเป็นนักมวย ก็ถือว่าชกไม่สมศักดิ์ศรี เพราะอยากได้เข็มขัดแชมป์ แต่ไม่กล้าขึ้นเวทีชกเอง กลับให้ลูกน้องต่อยแทนไปพลางๆ ก่อน

ส่วนตัวเองหลบมุมไปเป็นกรรมการ คอยกดแต้มให้ทีมตัวเองชนะ และจับคู่แข่งมัดมือมัดเท้า ให้เด็กตัวเองออกหมัดฝ่ายเดียว พอรู้ผลแพ้ชนะ แล้วค่อยถอดเสื้อกรรมการ แล้วขึ้นเวทีรับรางวัลสวมเข็มขัดแชมป์ โดยไม่ต้องแข่งขัน แบบนี้ต่อให้ได้เช็มขัดแชมป์เปี้ยน ก็ไม่สมศักดิ์ศรีและไม่มีความสง่างาม แต่จะถูกผู้คนติฉินนินทา ทั้งยังจะไม่ได้รับการยอมรับจากคนไทยด้วยกันเองและจะถูกมองอย่างดูแคลนในสายตาของชาวต่างประเทศ”