"ปิยบุตร"กังวลป้ายหาเสียงไม่ครอบคลุมผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ

"ปิยบุตร"กังวลป้ายหาเสียงครอบคลุมถึงผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อหรือไม่ ย้ำอนาคตใหม่จะใช้ไพรมารีโหวตเลือกสส.

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึง การออกร่างระเบียบการหาเสียง ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)​ ในประเด็นป้ายหาเสียง ว่า ส่วนตัวเข้าใจว่าร่างระเบียบดังกล่าวที่ระบุให้มีภาพได้เฉพาะผู้สมัครหรือหัวหน้าพรรค หรือแคนดิเดตนายกฯ นั้นยังเป็นร่างอยู่ แต่สิ่งที่ตนตั้งคำถาม คือ ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อจะสามารถติดป้ายหาเสียงได้หรือไม่ หรือได้แต่เฉพาะแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง

"ถ้าไม่ครอบคลุมถึงผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ จึงอยากถามว่าจะมีการประชาสัมพันธ์ในแบบบัญชีรายชื่ออย่างไร ส่วนที่มีหลายพรรคสงสัยในประเด็นที่นำภาพบุคคลในดวงใจที่เป็นอดีตหรือล่วงลับไปแล้วมาขึ้นป้ายหาเสียงจะเป็นชนวนในการฟ้องร้องในอนาคตหรือไม่นั้น ผมมองว่ากฎระเบียบต่างๆ ในปัจจุบันควรจะตีความให้เสรีภาพเป็นหลัก เพราะปัจจุบันเหมือนเราให้ความสนใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ต่อให้ห้ามให้มีป้ายหรือไม่ให้มีป้ายทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าพรรคใดมีบุคคลสำคัญบ้าง"นายปิยบุตร กล่าว

นอกจากนี้ การสื่อสารในโลกสมัยใหม่ไม่ได้มีแค่การสื่อสาร แต่ยังมีช่องทางผ่านโซเชียลมีเดีย เรื่องนี้ตนยังกังวลอยู่ ซึ่งทางกกต.ได้มีการส่งหนังสือให้พรรคการเมืองแสดงความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าว ทางพรรคมีความกังวลเรื่องหลังมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง อาจจะซื้อโฆษณาในสื่อโซเชี่ยลมีเดียไม่ได้ แต่สามารถซื้อโฆษณาในสื่ออื่นๆ ได้ ซึ่งหากทางกกต.ต้องการประหยัดงบประมาณการหาเสียงของพรรคการเมืองก็ต้องเปิดให้พรรคสามารถซื้อโฆษณาผ่านสื่อโซเชียลมีเดียได้ด้วย

เมื่อถามถึงกรณีการทำไพรมารีโหวตที่ยังคงมีปัญหาภายในพรรค นายปิยบุตร กล่าวว่า กฎหมายพรรคการเมืองเดิมกำหนดให้มีการทำไพรมารีโหวต แต่ภายหลังมีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)​ ให้ระงับการทำไพรมารีโหวตไว้ก่อน ซึ่งทางพรรคอนาคตใหม่ยังยืนยันที่จะสร้างระบบประชาธิปไตย และกระจายอำนาจภายในพรรค เปิดโอกาสให้คนที่มีแนวคิดเดียวกันเข้ามาสมัครเป็นสมาชิก

ทั้งนี้ ระบบที่เปิดให้เข้ามาสัมครเป็นสมาชิกพรรคก็ยังมีจุดบกพร่อง ยังมีคนที่ไม่ได้มีแนวคิดเดียวกันหรือเป็นคนที่ไม่ชอบพรรค แล้วแอบปลอมตัวเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรค เพื่อลงสมัครเป็นสส.ของพรรค หากในอนาคตได้รับการคัดเลือก แล้วมีอุดมการณ์ไม่เหมือนกับพรรคก็จะถือเป็นเรื่องที่ลำบากและสร้างปัญหาได้ ดังนั้น พรรคเองก็ต้องมีอำนาจในการคัดกรองบุคคลด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่พรรคพูดมาตลอด อย่างน้อยที่สุดเชื่อว่าทุกพรรค รวมถึงกกต.ก็รู้ดีว่าการทำระบบไพรมารีโหวตในประเทศนี้ ในช่วงเริ่มต้นถือว่ายากจริงๆ แต่อย่างน้อยที่สุดพรรคก็อยากลองทำ เพราะเห็นว่าเป็นกฎหมายใหม่สำหรับพรรคการเมืองไทย