"บิ๊กตู่"เปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวแบริ่ง-สมุทรปราการ ลั่น พรรคไหนไม่ถก7 ธค.ถือว่าไม่ยอมรับกติกา

นายกฯ เปิดทดลองเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ ให้ประชาชนใช้ฟรี 4 เดือน ลั่น พรรคไหนไม่มาประชุม 7 ธค.ถือว่าไม่ยอมรับกติกา

เมื่อวันที่  6 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ โดยมี พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วยรมว.มหาดไทย ,รมว.คมนาคม และคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) คณะผู้บริหารจังหวัดสมุทรปราการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ในกลุ่มบมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) เข้าร่วมพิธี ณโรงจอดและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสมุทรปราการ

จากนั้นเวลา 07.30 น. นายกรัฐมนตรี นำคณะผู้บริหาร ผู้แทนหน่วยงาน พร้อมสื่อมวลชน โดยสารรถไฟฟ้าจากศูนย์ซ่อมบำรุงไปยังสถานีเคหะสมุทรปราการ

ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เป็น โครงการรถไฟฟ้าแบบยกระดับตลอดสาย ระยะทาง 13 กิโลเมตร จำนวน 9 สถานี ศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แห่ง และลานจอดรถ 1 แห่ง โดยรฟม. ได้เริ่มก่อสร้างงานโยธาและงานรางตั้งแต่ปี 2555 กระทั่งแล้วเสร็จเรียบร้อยประมาณต้นปี 2560 จากนั้นกรุงเทพมหานครได้เริ่มเข้าดำเนินการติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลเมื่อเดือนต.ค.59 และสามารถเปิดเดินรถได้ 1 สถานี ที่สถานีสำโรง เมื่อวันที่ 3 เม.ย.60 จากนั้นกรุงเทพมหานครได้ทำการติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลส่วนที่เหลือทั้งหมด รวมทั้งดำเนินการทดสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ และทดสอบการเดินรถจริง โดยจะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้ฟรี 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค.61 ถึงวันที่ 15 เม.ย.62

โดยนายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับประชาชน ยืนยันรัฐบาลต้องการที่จะสร้างขนส่งมวลชน ให้เกิดการเชื่อมโยงจากปริมนฑลเข้าสู่เมือง แต่การจะดำเนินการก่อนสร้างได้นั้น ประชาชนต้องให้การร่วมมือ เพราะยังติดขัดเรื่องที่ดิน ดังนั้นจึงมีแนวคิดมอบให้กระทรวงคมนาคม และกทม. ไปดูแลประชาชนผู้มีรายได้น้อย รวมถึงประชาชนที่ถูกเวนคืนที่สร้างอาคารที่อยู่อาศัยขึ้นในพื้นที่โครงการจอดแล้ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงก่อน พร้อมชี้แจงว่ามาตรการการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยนั้นเป็นการให้ไม่ได้แจก เพื่อลดภาระของแต่ละครัวเรือน ซึ่งงบประมาณที่ให้ไป อยู่ในกรอบกฎหมาย ทั้งนี้ ขอประชาชนอย่าเชื่อว่า กรณีที่มีการโจมตีว่ารัฐบาลทำให้ประเทศมีหนี้สาธารณะมากจนล้มละลาย ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย โดยนายกฯ ได้ถามกลับว่า ตนเองเคยใช้อำนาจทำร้ายใครหรือไม่ มีเพียงแต่พูดเสียงดุบ้าง ตลกบ้าง

นายกฯ กล่าวอีกว่า 4 ปี ที่ผ่านมา ประเทศชาติสงบ จึงต้องระมัดระวังไม่ให้มีปัญหาเกิดขึ้นขอร้องฝ่ายการเมืองอย่านำกฎหมายมาสู้กัน ควรนำประเทศชาติมาคุยกันอยู่ในกติกา ทั้งนี้ 7 ธ.ค. เชิญพรรคการเมืองมาก็ปฏิเสธกัน ซึ่งหากพรรคไหนไม่ยอมมาก็ถือไม่เคารพกติกา เปรียบเหมือนกีฬามวยจะขึ้นชกบนเวทีแล้วแต่กรรมการเรียกมาฟังกติกาแต่ไม่ยอมมาก็ไม่รู้ว่าจะชกกันได้อย่างไร

ภาพ @pr_bangkok