พรรคไทยศรีวิไลย์จี้บิ๊กตู่ปรับ2รมต.เกษตร-พาณิชย์
หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ จี้บิ๊กตู่ ปรับ2รัฐมนตรีเกษตร-พาณิชย์ สังเวยสินค้าเกษตรตกต่ำ เอาเวลาทำการเมือง ดึงคนมีความสามารถมาทำงานแทน
หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ จี้บิ๊กตู่ ปรับ2รัฐมนตรีเกษตร-พาณิชย์ สังเวยสินค้าเกษตรตกต่ำ เอาเวลาทำการเมือง ดึงคนมีความสามารถมาทำงานแทน
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.61 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่างถึงการแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำว่า รัฐบาลใช้เงินแก้ปัญหาโดยเฉพาะนายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตร และสหกรณ์ก็ไม่มีความรู้เรื่องเกษตรโดยเฉพาะปัญหางยางพารา น้ำมันปาล์ม เป็นอย่างไร ที่ผ่านมาเป็นข้าราชการอยู่กระทรวงมหาดไทย เก่งแต่เรื่องโยกย้าย ขณะที่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ อีกสถานะก็คือเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ก็เอาแต่หาเสียง หาสมาชิกพรรค วางแผนการเมืองจะได้เป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้ง จึงไม่มีเวลาเจรจาการค้าหรือทำงานให้กับเกษตรกรและพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่
“จึงถึงเวลาแล้วที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ต้องกำจัดเนื้อร้ายและปรับบุคคลเหล่านี้ออกไปและดึงคนที่มีความสามารถมาทำงานแทน หากยังไม่ทราบจะใช้งานใคร ก็ให้มาปรึกษาผม จะแนะนำคนดี ทำงานเป็นและไม่มีเรื่องคอรัปชั่นไปช่วยรัฐบาลในช่วงโค้งสุดท้ายเผื่อคะแนนจะกระเตื้องกลับขึ้นมาบ้าง”นายมงคลกิตติ์ กล่าว
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาเกษตรอย่างเช่น โดยเฉพาะยางพารา รัฐบาลควรไปเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านอาทิ มาเลเซีย หรือ อินโดนีเซียที่ผลิตยางพาราเช่นเดียวกับเรา เพื่อร่วมกันกำหนดราคาและไปเจรจาต่อรอง กับบริษัทต่างชาติ ช่วยเหลือเกษตรกรได้รับราคาที่เป็นธรรม มิใช่แข่งกดราคากันเอง หรือรัฐบาลควรจะไปหาตลาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเจรจากับบริษัทยางรถยนต์ของไทย 6 บริษัทให้ช่วยรับซื้อในราคาสูง ทั้งที่ความจริงราคายางรถยนต์มีแต่แพงขึ้น ขณะที่ยางพารากลับราคาตกต่ำซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกใช่หรือไม่ ที่พล.อ.ประยุทธ์ ปล่อยให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ ดังนั้น การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 ก.พ. 62 อยากให้ประชาชนตัดสินใจให้ดี โดยเฉพาะรัฐบาลชุดนี้ แม้วันนี้มีมาตรา 44 ยังแก้ปัญหาดังกล่าวไม่ได้ และหากต่อไม่มีมาตรา 44 และกลับเข้ามาบริหารประเทศจึงไม่อยากคิดภาพตามว่า จะเกิดหายนะมากน้อยเพียงใด