posttoday

“ภูมิธรรม” ซัด อดีตส.ส.เลือกพรรคผิด อาจไม่ได้เข้าสภาฯ

28 พฤศจิกายน 2561

เลขาฯเพื่อไทย ซัด อดีตส.ส.เลือกพรรคผิด อาจไม่ได้เข้าสภาฯ ปูด มีการปล่อยข่าวยุบพรรคสร้างความปั่นป่วนอดีตส.ส. อ้อมแอ้ม “โอ๊ค” นำหาเสียง

เลขาฯเพื่อไทย ซัด อดีตส.ส.เลือกพรรคผิด อาจไม่ได้เข้าสภาฯ  ปูด มีการปล่อยข่าวยุบพรรคสร้างความปั่นป่วนอดีตส.ส. อ้อมแอ้ม “โอ๊ค” นำหาเสียง

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงตัวเลขสมาชิกพรรคที่ออกจากพรรคเพื่อไทยว่า อดีตส.ส.ปี 2554 ระบบเขตเลือกตั้งที่ออกจากพรรคเพื่อไทยไปยังพรรคต่างๆไม่นับรวมที่ไปพรรคไทยรักษาชาติ อยู่ที่ 28 คน ส่วนส.ส.บัญชีรายชื่อก็มีอีกบางส่วน แต่คิดว่าสิ่งสำคัญอยู่ที่พรรคการเมืองหากเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้เขาเลือก การที่ส.ส.ไหลออกไปไม่ใช่เรื่องน่ากังวลใจ เพราะเท่าที่ฟังพรรคของผู้มีอำนาจดูดอดีตส.ส.ไปจากพรรคต่างๆประมาณ 50 คน แต่การเลือกตั้งทุกครั้งจะมีตัวเลข 20-30% ที่อดีตส.ส.ไม่สามารถกลับเข้าสภาได้ ตรงนี้ต้องมาพิสูจน์กันว่าช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาที่ประชาชนได้เผชิญกับสถานการณ์ต่างๆเขาอยากได้คณะรัฐบาลที่ตอบสนองการแก้ปัญหาแบบไหน ผู้แทนราษฎรเองต่อให้เป็นคนเก่าคนแก่ แต่หากเลือกอยู่ผิดข้างไม่สามารถเป็นข้างที่ให้ความหวังตอบสนองการแก้ปัญหาให้ประชาชนได้โอกาสกลับคืนเข้าสภาฯก็มีไม่มาก

นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราให้ความไว้วางใจนักการเมืองของเราทุกคนแต่ก็มีเสียงลือเรื่องการย้ายพรรคมาก เราเฝ้าระวังเรื่องนี้อยู่ กรรมการที่เกี่ยวข้องดูแลอยู่ การย้ายออกของอดีตส.ส.ยืนยันไม่มีปัญหาเพราะเรามีบุคลากรที่มีคุณภาพให้ประชาชนเลือกใช้งานมากกว่าจำนวนเขตที่มีอยู่ มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยมีเครดิตเพียงพอที่ประชาชนจะฝากไว้วางใจกับเรา ส่วนจะส่งผู้สมัครครอบ 350 เขตหรือไม่นั้นเราจะส่งให้มากที่สุดเท่าที่มากได้แต่ก็ขึ้นกับเงื่อนไขหลายๆอย่าง

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่ามีเจตนาลาออกช่วงสุดท้ายให้หาตัวผู้สมัครไม่ทัน นายภูมิธรรม กล่าวว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้นักการเมืองหลายคนที่ออกไปยังมีความหวั่นเกรง การตัดสินใจย้ายออกจากพรรคเพื่อไทยไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะคะแนนนิยมที่มีต่อพรรคเพื่อไทย เมื่อถามถึงกรณีอัยการจะนัดสั่งคดีที่แกนนำพรรคเพื่อไทยแถลงข่าวโจมตีผลงาน 4 ปี คสช. จะส่งผลให้ถูกยุบพรรคหรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่าเราไม่เคยกังวลในเรื่องนี้ แม้จะมีการสะท้อนให้สมาชิกเราหวั่นไหวบ้างแต่ไม่กระทบความหวั่นไหวของสมาชิกพรรค ช่วง 3 วันสุดท้ายก่อนวันที่ 26 พ.ย. มีการปล่อยข่าวเข้ามาว่ากระบวนการนี้จะรวดเร็วเพื่อยุบพรรค ก่อให้เกิดความสับสนในหมู่นักการเมือง แต่คดีความต่างๆไม่ได้ไปไกลแค่จะส่งฟ้องเข้าสู่กระบวนการธรรมดา

เมื่อถามว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯที่สมัครเป็นสมาชิกพรรค มีโอกาสนำทีมหาเสียงทุกพื้นที่มากน้อยแค่ไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายพานทองแท้เป็นสมาชิกพรรค โดยหลักการสมาชิกพรรคทุกคนมีสิทธิร่วมหาเสียง ถึงเวลาเราก็เรียกร้องขอความร่วมมือกับสมาชิกทุกคนอยู่แล้ว เพราะสิ่งสำคัญที่สุดของพรรคเพื่อไทยคือฐานสมาชิกที่มีความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ส่วนใครจะมีเวลาช่วยพรรคได้มากแค่ไหนก็เป็นเงื่อนไขของแต่ละคน ส่วนลูกของนายทักษิณอีกสองคนนั้นยังไม่เห็นว่าสมัครเข้ามาเป็นสมาชิก เมื่อถามว่า นายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯยังอยู่กับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่านายสมชายยังเป็นสมาชิกอยู่ 

เมื่อถามถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.ระบุไม่จำเป็นต้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่เป็นห่วงเรื่องข้อกฎหมายแต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือความสง่างามในการอาสามาเป็นผู้นำ สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ควรทำคืออาสาตัวเองเข้ามายืนหน้าสปอร์ตไลท์ให้ประชาชนเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้นำที่ทำหน้าที่มาให้ประชาชนตัดสินใจให้ทำงานต่อไปหรือไม่ ให้เหมือนนักการเมืองทั่วไป การกลับเข้าสู่อำนาจหากเกิดขึ้นจริงก็จะสง่างาม ดีกว่ายืนอยู่ห่างๆให้ตัวเองได้เรียบทุกอย่างแบบนั้นไม่สง่างาม ส่วนที่คสช.จะให้เวลาหาเสียง 60 วันถือว่าน้อยไปหรือไม่นั้น ไม่ใช่เรื่องน้อยหรือมาก แต่ผิดวิสัยที่ประเทศประชาธิปไตยเขาทำกัน เพราะปกติพรรคการเมืองกับประชาชนสามารถสื่อสารกันได้ตลอดเวลา จนถึงวันสุดท้ายที่จะก่อให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบให้คนเป็นกลางเข้ามาดูแล แต่นี้ควบคุมตลอดเวลา ทุกคนเห็นอยู่แล้วว่ารัฐบาลใช้ทุกช่องทางชิงความได้เปรียบในการเลือกตั้งแต่ทุกพรรคการเมืองพร้อมสู้ในกระบวนการเพราะเชื่อว่าทุกสิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ในสายตาประชาชนตลอด