posttoday

ปชป.ชี้คำสั่งคสช.แทรกแซงเลือกตั้ง เตือนระวังทำกลับสู่วงจรขัดแย้ง

18 พฤศจิกายน 2561

โฆษกประชาธิปัตย์ชี้คำสั่งคสช.แแทรกแซงการทำงานของกกต.ในการจัดเลือกตั้ง เตือนระวังทำให้ประเทศกลับสู่วงจรของความขัดแย้งอีกครั้ง

โฆษกประชาธิปัตย์ชี้คำสั่งคสช.แแทรกแซงการทำงานของกกต.ในการจัดเลือกตั้ง เตือนระวังทำให้ประเทศกลับสู่วงจรของความขัดแย้งอีกครั้ง

นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงข่าวถึงคำสั่ง คสช. ที่ 16/2561 ให้ขยายเวลาแบ่งเขตเลือกตั้ง ว่าการกระทำดังกล่าวของ คสช. ถือเป็นการแทรกแซงการทำงานของ กกต. องค์กรอิสระที่มีหน้าที่จัดการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม เพราะไม่ปรากฏข้อเท็จจริงใดว่า กกต.ไม่สามารถดำเนินการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปตามตารางเวลา ที่ กกต. กำหนดไว้ แต่ คสช. ก็ใช้อำนาจตาม มาตรา 44 เข้าไปขยายเวลาให้กับ กกต. ถือเป็นการไม่เคารพขั้นตอนการทำงานขององค์กรอิสระที่มีขึ้นตามกฎหมาย และทำให้ กกต.ขาดความน่าเชื่อถือ เพราะถือว่ามีการเข้ามาแทรกแซง สั่งการกับ กกต.ได้ และ มีความเป็นห่วงว่าอาจจะมีองค์กรอิสระอีกหลายองค์กรที่อาจจะถูกแทรกแซงในลักษณะเดียวกันนี้แต่ไม่ปรากฏเป็นข่าว

นายธนา กล่าวอีกว่า การออกคำสั่งดังกล่าวนั้น คสช. ทำให้การแบ่งเขตการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามกฎหมายที่ได้ออกมาแล้ว ทั้งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง หรือ ระเบียบ กกต. ว่าด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้งก็ดีเนื่องจากในกฎหมายดังกล่าวนั้น การที่จะมีการแบ่งเขตเลือกตั้งได้ กกต. จะมีรูปแบบเสนอให้กับ ประชาชน และ พรรคการเมือง 3 รูปแบบ เพื่อให้แสดงความคิดเห็นว่า "เห็นด้วย" หรือ "ไม่เห็นด้วย" ก็ตาม

แต่คำสั่ง คสช. ที่ 16/2561 นั้นได้ระบุว่าเป็นความเดือดร้อนที่ประชาชนร้องมา แต่ท้ายที่สุดคำสั่งนี้กลับไปเพิ่มช่องทางในการที่ กกต. จะต้องรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมจากกฎหมายเดิม กล่าวคือ กฎหมายเดิมนั้น ให้รับฟังความคิดเห็นเฉพาะจากประชาชน และ พรรคการเมือง แต่คำสั่ง คสช.16/2561นี้ ให้รับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอของ คสช. และรัฐบาล ด้วยเพราะฉะนั้นประเด็นปัญหานี้จะทำให้เราทราบดีว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งทั้งหมด ที่ กกต. ต้องดำเนินการนั้น อาจจะมีรูปแบบนอกเหนือจาก 3 รูปแบบที่ กกต. เสนอ และ เป็นรูปแบบที่เป็นไปตามกฎหมาย

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หากมีการแบ่งเขตเลือกตั้งจริง จาก กกต. ที่จะออกมาเร็วๆนี้ เป็นรูปแบบอื่นที่ไม่ได้ปรากฏใน 3 รูปแบบที่ กกต. เคยเสนอให้ประชาชน และพรรคการเมืองแล้ว ตนขอถือว่า คสช. เข้ามาแทรกแซง และ กำกับ ให้การเลือกตั้งเป็นไปตามที่ คสช. และรัฐบาลต้องการ สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏอย่างหนึ่ง คือ ขณะนี้มีพรรคการเมืองที่สนับสนุนแนวนโยบายของ คสช. และสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง นอกจากข้อเสนอที่เสนอให้กับนักการเมืองพรรคต่างๆ ให้เข้ามาอยู่กับพรรคการเมืองที่มีแนวความคิดเดียวกันกับรัฐบาล อีกข้อเสนอหนึ่งที่พวกเราทราบดีจากการที่มีนักการเมืองมาติดต่อก็คือเงื่อนไขของการแบ่งเขตเลือกตั้งให้เป็นไปตามที่ผู้สมัครคนนั้นต้องการ

เพราะฉะนั้นหากมีการแบ่งเขตเลือกตั้งเสร็จสิ้น พรรคประชาธิปัตย์จะตรวจสอบการแบ่งเขตเลือกตั้งว่า เป็นไปตาม 3 แบบที่ กกต. เสนอตั้งแต่แรกหรือไม่ หากไม่ได้เป็นไปตามนั้นแสดงว่า กกต. ถูกแทรกแซงจาก คสช. ในขั้นตอนการแบ่งเขตเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว

นายธนา กล่าวอีกว่า ขณะนี้ กกต. ได้ขยายเวลาในการรับสมัครผู้อำนวยการ และ กรรมการประจำเขตเลือกตั้ง จากเดิมกำหนดไว้ว่า วันที่ 19 ถึง 23 พฤศจิกายน 2561 แต่ว่าเนื่องจากมีการขยายเวลาแบ่งเขตเลือกตั้ง จึงต้องขยายเวลาสำหรับการรับสมัครกับบุคคล ดังกล่าวด้วย

หากการดำเนินการเลือกตั้งไม่ได้เป็นไปในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ตามที่ คสช. และ กกต. ได้ยืนยันมาตั้งแต่ต้นว่าสามารถจัดการเลือกตั้งได้ แสดงให้เห็นว่าคำสั่ง คสช. ที่ 16/2561 นั้น เป็นคำสั่งที่จะทำให้การเลือกตั้งนั้นขยายเวลาออกไป

ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ คำสั่ง คสช. 16/2561 ตามมาตรา 44 เป็นคำสั่งสุดท้ายในรัฐบาลนี้ เพราะขบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้นในการดำเนินการเลือกตั้งนั้น คสช. เป็นผู้กำหนดเองทั้งสิ้น ผ่านแม่น้ำ 5 สายไม่ว่าจะเป็น คสช. รัฐบาล และหน่วยงานต่างๆ จึงไม่มีเหตุผลใดเลยที่โรดแม็ปไม่สามารถเดินหน้าได้ เพราะทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม คสช.

เพราะฉะนั้นหาก คสช. ยังดำเนินการในลักษณะเหมือนที่ผ่านมา ให้ประชาชนมีความหวาดระแวงว่า คสช. ก็ไม่ได้แตกต่างจากรัฐบาลเดิมๆ ที่ถูกคณะรัฐประหารยึดอำนาจมา เนื่องจากในรัฐบาลที่ผ่านมานั้นคำนึงถึงประโยชน์ของตัวเอง และ พวกพ้องมากกว่าคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ หาก คสช. ยังมีการดำเนินการในลักษณะดังกล่าวจะส่อให้เห็นถึงความพยายามที่จะสืบทอดอำนาจอย่างชัดเจน และท้ายที่สุด ตนเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจถึงการดำเนินการของ คสช. ที่ผ่านมาทั้งหมด เพราะฉะนั้นขอเรียกร้องว่าคำสั่ง คสช. ที่ 16/2561 ขอให้เป็นคำสั่งสุดท้ายในรัฐบาลนี้

"พรรคประชาธิปัตย์ขอเรียกร้องให้ กกต. ยืนหยัดต่อสู้กับอำนาจที่จะเข้ามาแทรกแซงกระบวนการการเลือกตั้ง นับตั้งแต่บัดนี้ไปจนประกาศผลเลือกตั้งได้ เพราะถือเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุด หาก กกต. ไม่สามารถเป็นที่ยอมรับให้กับประชาชนได้ ท้ายที่สุด การเลือกตั้งครั้งนี้ก็จะสูญเปล่า และอาจทำให้ประเทศกลับสู่วงจรของความขัดแย้งอีกครั้ง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์มีความเป็นห่วงมาก วันนี้จึงขอสื่อสารปัญหาเหล่านี้ให้ไปถึง คสช. และ กกต. เพราะมิฉะนั้นแล้วความขัดแย้งก็จะกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งหนึ่ง แม้จะมีการเลือกตั้งก็ตาม" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว