ภท.เน้น แก้กม.ให้ประชาชนทำธุรกิจแบ่งปันโดยไม่กระทบวิถีชีวิต

พรรคภูมิใจไทย เน้น แก้กฎหมายให้ประชาชนสามารถทำธุรกิจแบ่งปันโดยไม่กระทบวิถีชีวิตเดิม

เมื่อวันที่ 15 พ.ย. พ.อ. ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย ในฐานะทีมยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยี เปิดเผยถึงแนวคิดเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน หรือ sharing economy ซึ่งพรรคกำลังผลักดันให้เป็นนโยบาย Application อาทิ Grab และ Air bnb เป็นตัวเร่งให้เกิดระบบเศรษฐกิจแบบแบ่งปันขึ้น และรูปแบบเศรษฐกิจแบบนี้ กำลังได้รับความนิยมจากสังคมในปัจจุบัน โดยคาดกันว่ารายได้จากระบบเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน จะมีสูงกว่า 15 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และจะขยายตัวเป็น 335 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2025

อย่างไรก็ดี การเกิดขึ้นของ Sharing economy ไม่เพียงเป็นความท้าทายสำหรับธุรกิจแบบดั้งเดิม อาทิ อาชีพแท็กซี่ต้องแข่งกับ Grab หรือโรงแรมที่ต้องมาแข่งกับ Air BNB แต่ยังรวมไปถึงแนวทางของรัฐบาลในการกำหนดนโยบายและระเบียบข้อบังคับ ซึ่งต้องเปลี่ยนให้ทันความต้องการของประชาชน ขณะเดียวกันต้องไม่ไปทำลายอาชีพดั้งเดิม ถือเป็นความท้าทายที่รัฐบาลต้องประสบ

“ต้องยอมรับว่าในขณะที่รูปแบบการทำธุรกิจแบบแบ่งปันสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนกับคนทั่วโลกอย่างมหาศาล แต่ของประเทศไทย กลับติดปัญหาจุกจิก อาทิ กฎกรอบ ห้ามโน่น ห้ามนี่ จนกลายมาเป็นอุปสรรคไม่ให้ให้คนไทยสามารถหาประโยชน์จากเศรษฐกิจใหม่ได้เต็มที่ จึงถึงเวลาที่เราต้องมาคิดเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง ว่าจะให้คนไทยได้ประโยชน์สูงสุดจากธุรกิจแบ่งปันตรงนี้อย่างไร เพื่อให้ประชาชนสามารถนำทรัพย์สินที่มีมาใช้ประโยชน์ สร้างรายได้ กระจายเม็ดเงินให้ได้มากที่สุด"

พ.อ. ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวด้วยว่า สำหรับพรรคภูมิใจไทยมองไปที่การแก้กฎหมาย และขณะนี้กำลังรวบรวมดูว่ากฎหมายไหน คืออุปสรรคของคนไทยที่จะต้องปรับเปลี่ยนให้ทันโลก รวมถึงต้องให้คนที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจเดิมสามารถอยู่รอดได้ด้วย