posttoday

กกต.ยันไร้ปัจจัยเลื่อนเลือกตั้ง คาดอีก2สัปดาห์ประกาศแบ่งเขต

14 พฤศจิกายน 2561

กกต.คาด2สัปดาห์ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งได้ ยันไร้ปัจจัยให้เลื่อนเลือกตั้งออกไป เปรยหากเกิดจริงต้องหารือแม่น้ำ5สาย

กกต.คาด2สัปดาห์ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งได้ ยันไร้ปัจจัยให้เลื่อนเลือกตั้งออกไป เปรยหากเกิดจริงต้องหารือแม่น้ำ5สาย

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ถึงความคืบหน้าเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง ว่า ขณะนี้เกือบเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนการตรวจสอบขั้นสุดท้ายก่อนที่จะส่งให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และเหตุล่าช้าเนื่องจากตนต้องผ่าตัดดวงตาทั้งสองข้าง ไม่ได้มีเหตุปัจจัยอื่น โดยคาดว่า 1-2 วันคงส่งให้ประกาศได้ และคงไม่ใช่ปัจจัยให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป ซึ่งยังอยู่ในกรอบเวลาที่กำหนดไว้ ตามคำสั่งคสช. ที่ 13/2561 ระบุไว้ว่าการแบ่งเขตต้องเรียบร้อย ก่อนที่พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มีผลบังคับใช้ แน่นอนว่าต้องเรียบร้อยก่อนวันที่ 11 ธ.ค. โดยการแบ่งเขตได้ดูในทุกจังหวัดแล้ว ก่อนลงประกาศในราชกิจจาฯ

"เราต้องมั่นใจว่า สิ่งที่เราจะลงไป ตรงกับรูปแบบที่เราจะส่งไปประกาศ ไม่อยากให้เกิดความคลาดเคลื่อนในภายหลัง เพราะมีการลดเขตเลือกตั้งจาก 375 เขต เหลือ 350 เขต ดังนั้น เขตเลือกตั้งไม่เท่าเดิม และไม่เหมือนเดิมไปเสียทุกจังหวัด แต่ละจังหวัดลงตัวหมดแล้ว ก่อนหน้านี้ได้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนใน 3 รูปแบบ โดยให้จังหวัดสรุปและเลือกรูปแบบที่ดีที่สุดเสนอมา จะ 3 รูปแบบหรือมากกว่านั้นก็ได้ จึงมีรูปแบบให้เราดูเยอะ เมื่อดูเยอะและตัดสินใจก็ต้องดูว่า เป็นรูปแบบที่จะลงไปพิมพ์"นายอิทธิพร กล่าว

ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะเป็นชนวนทำให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังไม่มีที่จะทำให้เลื่อนการเลือกตั้ง ยังเป็นวันที่ 24 ก.พ. 62 ยังไม่คิดว่าจะมีการเลื่อนหรือไม่เลื่อน ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย หลังจากพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. มีผลใช้บังคับวันที่ 11 ธ.ค. ขั้นตอนต่อไปจะมีการออกพ.ร.ฎ.การเลือกตั้ง หลังจากนั้นจะมีการหารือกันระหว่างแม่น้ำทั้ง 5 สาย เมื่อคุยกันเรียบร้อยแล้ว กกต.จะนำความเห็นมาประมวลว่าจะจัดการเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ.62 หรือวันอื่นใด แต่ตอนนี้ยังไม่มีปัจจัยอื่นที่จะทำให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น

อย่างไรก็ตาม หากมีการเปลี่ยนแปลงจะต้องพูดคุยกับแม่น้ำ 5 สาย ถ้ามีปัจจัยอื่น เช่น เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องการสอบแกท-แพท ที่ตรงกับวันที่ 24 ก.พ. 62 เรื่องนี้ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ทำให้กกต.ต้องนำมาประกอบการพิจารณา ซึ่งการสอบดังกล่าวก็จบประเด็นไปแล้ว ขณะนี้ยังไม่มีปัจจัยอื่นที่ทำให้กกต.จะต้องเลื่อนการเลือกตั้ง

นายอิทธิพร กล่าวต่อว่า กกต.มีการเตรียมการเลือกตั้งมาโดยตลอด และมีการเตรียมการมาตั้งแต่กกต.ชุดเก่า และสำนักงานก็มีการเตรียมการอย่างมืออาชีพ เมื่อกกต.ชุดใหม่เข้ามา ก็มีส่วนในการเตรียมการด้วย เป็นการเตรียมความพร้อมตามปฏิทินงานของกกต.ในทุกระดับ อาจมีความล่าช้าในบางจุด ก็เป็นเหตุทางเทคนิค ไม่ใช่อุปสรรคปัญหา

ส่วนการพิจารณาให้สหประชาชาติ (อียู) เข้ามาสังเกตุการณ์เลือกตั้ง ยืนยันว่ายังไม่ได้ถึงขั้นดังกล่าว เพียงแต่มาพูดคุยว่าพร้อมที่จะส่งผู้สังเกตุการณ์เข้ามา แนวทางการปฏิบัติของ กกต. ที่ผ่านมา เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายสามารถส่งคณะผู้แทนมาสังเกตุการณ์เลือกตั้งของได้อย่างเต็มที่ โดยกกต.มีโครงการ Visitor Program ทั้งเอ็นจีโอ ผู้แทนรัฐบาล หรือองค์การระหว่างประเทศ อียู ก็เคยส่งเข้ามา 2 ครั้งภายใต้โครงการนี้

สำหรับเรื่องจำนวนผู้สังเกตุการณ์ ยังไม่ได้พิจารณา โดยปกติควรมีจำนวนที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป และอาจใช้บรรทัดฐานจากแนวปฏิบัติที่ผ่านมา ตั้งแต่ค.ศ. 2003 ที่มีโครงการ Visitor Program ที่เปิดให้เข้ามาสังเกตุการณ์ อะไรที่เกินจากแนวปฏิบัติก็นำมาพิจารณาว่าสมควรอนุญาตหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า กลายเป็นแรงกดดันมายังกกต.หรือไม่ เพราะผู้มีอำนาจให้สัมภาษณ์ลักษณะที่ไม่อยากให้มีผู้สังเกตุการณ์ นายอิทธิพร กล่าวว่า ส่วนตัวไม่คิดเช่นนั้น คิดว่าภาคส่วนอื่นเคารพการทำงานของ กกต. การขอฟังความเห็นก็เพื่อประโยชน์ของการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด ไม่ใช่ขอฟังแล้วมีแรงกดดัน เรื่องนี้กกกต.สามารถตัดสินใจได้เอง ไม่ใช่เรื่องที่จะขออนุญาตคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่ กกต. ยังไม่ได้พิจารณา โดยขอให้สำนักงานที่เกี่ยวข้องกับนำเรื่องนี้เสนอเข้าสู่กาพิจารณาของ กกต. ในเร็ววัน ส่วนความเห็นของภาคส่วนอื่น ไม่ว่ารัฐบาลหรือคสช. สามารถฟังความเห็นได้เพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจ ไม่สามารถมาชี้นำความเห็นของกกต.ได้ เพราะอำนาจตัดสินใจเป็นเรื่องของกกต.

นอกจากนี้ ในวันที่ 15 พ.ย. กกต.จะจัดงานเลี้ยงรับรองคณะทูตจากต่างประเทศ เพื่อแนะนำตัวกกต.ชุดใหม่และพูดถึงความคืบหน้าต่างๆ การปฏิสัมพันธ์กับประชาคมทางการทูต คงจะมีเป็นระยะอย่างสม่ำเสมอ โดยตั้งใจจะให้มีการบรรยายสรุปให้คณะทูตรับฟังด้วย ส่วนการยอมรับการจัดการเลือกตั้งของไทย ก็ขึ้นอยู่กับการทำหน้าที่ของกกต. ที่จะต้องทำให้สุจริตเที่ยงธรรม การให้ข่าวและให้ความคืบหน้ากับทูตก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน และควรเปิดโอกาสให้ได้ซักถาม การติดต่อสื่อสารกันอย่างต่อเนื่องก็จะช่วยสร้างความเชื่อใจกันในระดับหนึ่ง