posttoday

"บิ๊กแดง"สั่งดูแลทหารใหม่เหมือนน้องชาย ห้ามทำร้าย ลั่นไม่เลิกเกณฑ์ทหาร

03 พฤศจิกายน 2561

ผบ.ทบ.ให้คำมั่น สั่งหน่วยงาน ดูแลทหารใหม่เหมือนน้องชาย อยู่ดีกินดี คาดโทษใครทำร้ายพลทหาร เจอโทษหนัก ลั่นไม่เลิก"เกณฑ์ทหาร"ชี้ชาติใดไร้ทหารคือประเทศอ่อนแอ

ผบ.ทบ.ให้คำมั่น สั่งหน่วยงาน ดูแลทหารใหม่เหมือนน้องชาย อยู่ดีกินดี คาดโทษใครทำร้ายพลทหาร เจอโทษหนัก ลั่นไม่เลิก"เกณฑ์ทหาร"ชี้ชาติใดไร้ทหารคือประเทศอ่อนแอ

เมื่อวันที่ 3 พ.ย. พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก  กล่าวถึงนโยบายการดูแลพลทหารใหม่ ผลัด2 ที่เข้ารายงานตัวประจำการ1-3 พ.ย. 2561 ว่า  เรามีนโยบายสร้างทหารต้นแบบ จึงให้ความสำคัญกับพลทหาร ซึ่งถือเป็นน้องชายคนเล็ก หรือน้องชายคนสุดท้องของหน่วยทหาร  ซึ่งการจะดูแลให้หน่วยฝึกทหารใหม่ดีได้ กำลังพลก็ต้องอยู่ดีกินดี ดังนั้น พลทหาร ไม่ว่าจะเป็นทหารเกณฑ์หรือทหารที่สมัครเข้ามาประจำการ กองทัพจะต้องดูแลให้ดีที่สุด จึงได้ออกระเบียบใหม่ ดูแลเรื่องอาหาร และความเป็นอยู่ที่ต้องถูกสุขลักษณะและที่อยู่อาศัยต้องพอเพียง ไม่แออัด นอกจากนี้ สิ่งที่พยายามเน้นมากคือ ความเสียสละของผู้บังคับหน่วยฝึกฯ ที่ต้องเสียสละ ดูแลรายละเอียดอื่น ๆ ซึ่งบางเรื่องต้องแก้ปัญหาและดำเนินการไปก่อน  เพราะหาก รองบประมาณประจำปีอาจจะล่าช้า

ทั้งนี้ กองทัพได้จัดกิจกรรมต้อนรับครอบครัวและญาติทหารใหม่ เปิดให้ครอบครัวของทหารใหม่ได้เข้ามาดูหน่วยฝึก โรงนอน ตั้งแต่วันแรกที่รายงานตัว เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของกองทัพบกที่จะให้การดูแลสมาชิกใหม่ในทุกด้านอย่างดีที่สุด ที่สำคัญคือเรื่องสิทธิประโยชน์ ครอบครัวของพลทหารต้องรับทราบว่า ลูกหลานจะได้รับอะไร เบี้ยเลี้ยงเท่าไร และหลังฝึกแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ปัจจุบัน มีการจ่ายเงินเดือนผ่านบัตรเอทีเอ็ม เป็นครั้งแรก แก้ปัญหา ทหารถูก หักเงิน ไม่ถูกต้อง

  “สิ่งที่พ่อแม่ของทหารใหม่เป็นห่วงมาก คือยาเสพติดอยากให้กองทัพช่วยลูกหลานที่อาจเคยติดยา เลิกยาให้ได้ เรื่องนี้เป็นปัญหาสังคม ซึ่งนโยบายของกองทัพ ชัดเจนในเรื่องปราบปรามยาเสพติดที่ต้องเดินหน้าเต็มที่ ผมได้ให้นโยบายไปแล้วว่า ต้องหยุดยาเสพติดตามแนวชายแดนโดยใช้กฎอัยการศึกอย่างเต็มที่ ใครที่ติดยาเข้ามาในกองทัพ เราจะบำบัดและดูแล ไม่ใช่แบบคนป่วย แต่คือคนที่หลงผิด สิ่งหนึ่งที่จะเห็นชัดหลังปลดประจำการคือทุกคนมีระเบียบวินัยกลับไป การให้พลทหารทำงานต่าง ๆ นั้น ไม่ใช่การใช้งานกำลังพล แต่เป็นการปลูกจิตสำนึกให้รู้จักหน้าที่ของตนเอง ซึ่งการฝึกทหารยุคต้นแบบ ต้องมีลักษณะท่าทาง สมาร์ท ผึ่งผาย มีระเบียบวินัย เพื่อเป็นตัวอย่างให้หน่วยงานอื่น ๆ ได้ เมื่อทหารมีวินัย กองทัพเข็งแกร่ง ประเทศชาติก็เข้มแข็ง” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวถึงการลงโทษพลทหารที่รุนแรงเกินกว่าเหตุว่า เป็นความผิดร้ายแรง หากยังมีอีกถือว่าผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ไม่ใส่ใจดูแล ซึ่งเป็นนโยบายที่เข้มงวด และตนได้สั่งการด้วยตัวเองไปแล้ว พลทหารเหมือนน้องชาย ใครทำร้ายน้องชายคุณ คุณก็ไม่พอใจ

“ที่สำคัญต้องให้ความรู้กับครูฝึก ผู้ช่วยครูฝึก การจะซ่อม รับพี่หรือรับน้องอย่างไร ต้องอยู่ในความควบคุมดูแลของนายทหาร และต้องมีช่วงเวลา ไม่ใช่ใครอยากทำอะไรก็ทำ เป็นเรื่องที่กองทัพเน้นย้ำมาตลอด ต้องไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ซึ่งบางครั้งในสื่อโซเชียลออนไลน์มีการนำภาพเก่าๆมาส่งต่อกัน พยายามจะทำร้ายหรือดิสเครดิตทหาร เรื่องนี้เน้นย้ำไปไม่รู้กี่รอบ และครั้งนี้จะนำไปสู่การปฏิบัติและลงโทษอย่างจริงจัง” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว

ส่วน กรณีที่มีการเสนอให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร นั้น พล.อ. อภิรัชต์ กล่าวว่า ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ล้วนมีทหาร อยากให้มองว่าการที่ลูกหลานมาเป็นทหาร คือการมีอาชีพ

“การอยากให้ยกเลิกเกณฑ์ทหารเป็นเพียงการมองของคนกลุ่มหนึ่ง ไม่มีประเทศไหนในโลกที่ไม่มีทหาร ประเทศที่ไม่มีทหาร คือประเทศที่อ่อนแอ ผู้ที่นำเสนอความคิดนี้ ไปจับเอาความเห็นคนส่วนน้อยขึ้นมา บางทีเป็นเรื่องการเมืองไป แต่ให้เชื่อมั่นเถอะว่า ไม่มีประเทศใดไม่มีทหาร การยกเลิกการเกณฑ์ทหารเป็นไปไม่ได้ ทหารต้องมีทั้งระบบเกณฑ์ ระบบคัดเลือก และสมัครใจเข้ามา ซึ่งต้องขอขอบคุณผู้ที่เป็นพ่อแม่ของทหารกองประจำการ ขอให้สบายใจ ว่ากองทัพจะดูแลลูกท่านให้ดี ในวันที่ฝึกจบและกลับไปกราบตัก กราบเท้าพ่อและแม่ ท่านจะเห็นความเปลี่ยนแปลง และยืนยันว่า จะทำให้ลูกของท่านเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศไทย” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว