posttoday

สุเทพซัดกลุ่มอำนาจเก่าตามป่วนกิจกรรมเดินคารวะแผ่นดิน

31 ตุลาคม 2561

"สุเทพ"มั่นใจเดินคารวะแผ่นดินประชาชนตอบรับดี ชี้คนมาตามป่วนเป็นกลุ่มอำนาจเก่า ลั่นไม่ขอตอบโต้ให้ประชาชนตัดสินเอง

"สุเทพ"มั่นใจเดินคารวะแผ่นดินประชาชนตอบรับดี ชี้คนมาตามป่วนเป็นกลุ่มอำนาจเก่า ลั่นไม่ขอตอบโต้ให้ประชาชนตัดสินเอง

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรคพรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเล่าเรื่องราวขณะปฏิบัติการเดินคารวะแผ่นดินมาที่ย่านสีลมและเจริญกรุง โดยมีเนื้อหาดังนี้

จากสีลมสู่เจริญกรุง ในปฏิบัติการเดินคารวะแผ่นดินวันที่​ 5

เมื่อวานนี้ปฏิบัติการเดินคารวะแผ่นดินในวันที่ 5 ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย “รปช.”และผม มาที่ย่านถนนสีลมและเจริญกรุง และหลังจากคณะของเราได้สักการะพระแม่อุมาเทวี ที่วัด พระศรีมหาอุมาเทวี หรือวัดแขกแล้ว ผมได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าการลงพื้นที่พบปะประชาชนเพื่อรับสมัครสมาชิกตลอด 4 วันที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี แต่ก็มีบางกลุ่มบางคนที่คอยมาจ้องป่วน เช่นที่เยาวราช ก็มีคนตะโกนด่าทอหยาบคาย ซึ่งพบหลักฐานชัดเจนว่าเป็นกลุ่มอำนาจเก่า ไม่ใช่ กปปส. อย่างที่สื่อตั้งข้อสังเกตุ จนถึงในการเดินที่สีลมเมื่อวานนี้ ชายสองคนเดิมก็ยังตามมาป่วนอีก จึงได้สั่งกำชับไม่ให้ทีมงานตอบโต้ แต่จะให้พี่น้องประชาชนเป็นผู้ตัดสินเอง

ด้าน ม.ร.ว.จัตุมงคล ท่านได้ตอบคำถามกับสื่อ เชื่อว่าความรู้ความสามารถจากผลงานที่ผ่านมาโดยเฉพาะการคิดเมกะโปรเจคต์ รวมทั้งมีประสบการณ์ในการบริหารงานสมัยเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และปลัดกระทรวงการคลัง จะสามารถบริหารพรรคการเมืองได้ และทุกคนก็มีหน้าที่ถนัดของตัวเอง

จากนั้น ผมได้เดินพูดคุยพบปะกับพี่น้อง เพื่ออธิบายเจตนารมณ์และอุดมการณ์พรรค และเชิญชวนให้มาเป็นสมาชิกพรรค เนื่องจากย่านถนนสีลม-บางรักถือเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญในกรุงเทพ จึงมีพ่อค้าแม่ค้าประชาชนจำนวนมากให้การต้อนรับเป็นอย่างดี โดยวันนี้คณะได้เดินผ่านหน้าห้าง โรบินสันเจริญกรุง โรบินสันบางรัก และเข้าไหว้สักการะพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดยานนาวา ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายในวันนี้

จากการเดินหาสมาชิกช่วงตลอด 5 วันที่ผ่านมา ผมสังเกตได้ว่า คนรุ่นใหม่จะสนใจคำว่า “พรรคการเมืองของประชาชนที่แท้จริง” เราจึงอธิบายให้เข้าใจว่า เมื่อมาร่วมเป็นเจ้าของพรรค รปช.กับเราแล้ว ก็จะเห็นว่าประชาชนคนธรรมดาๆอย่างเรา สามารถที่จะเป็นผู้กำหนดนโยบายเองได้ สามารถกำหนดทิศทางการเมืองเองได้ และสามารถควบคุมการทำงานของนักการเมืองเองได้เช่นกัน ซึ่งต่างกับพรรคการเมืองยุคเดิมๆที่มีนายทุนเป็นเจ้าของและคอยกำหนดทุกอย่าง การเลือกตั้งของประชาชนที่ผ่านมาจึงเป็นเพียงแค่พิธีกรรมเท่านั้น