"ชาติไทยพัฒนา"เลือดไหลไป "ภูมิใจไทย" อดีตสส.ขอลาออก
ชทพ.เลือดไหลไปภูมิใจไทย "สิริพงศ์" อดีตสส.ศรีสะเกษลาออก เหตุ อยากทำงานด้านกีฬาและดันคนรุ่นใหม่
ชทพ.เลือดไหลไปภูมิใจไทย "สิริพงศ์" อดีตสส.ศรีสะเกษลาออก เหตุ อยากทำงานด้านกีฬาและดันคนรุ่นใหม่
เมื่อวันที่ 30 ต.ค. เวลา 10.45 น. ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ สมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา อดีตสส.ศรีสะเกษ เข้ายื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ต่อนายพิสิษฐ์ พิทยฐากุลเจริญ นายทะเบียนพรรค เพื่อเตรียมไปทำงานร่วมกับพรรคภูมิใจไทย
ทั้งนี้ ระหว่างที่นายสิริพงศ์เข้ายื่นใบลาออก มีนายภราดร ปริศนานันทกุล และนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล อดีต ส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทยพัฒนา และ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล มาให้กำลังใจ
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า แม้ฃจะลาออกจากพรรคชาติไทยพัฒนา ยังเป็นพวกเดียวกันเหมือนเดิม และสามารถทำงานร่วมกันได้ โดยก่อนจะตัดสินใจลาออก ได้คุยกับผู้ใหญ่หลายคนซึ่งเขาบอกว่าให้อยู่ช่วยงานพรรคชาติไทยพัฒนาก่อน แต่ส่วนตัวมองว่าไม่พร้อมทำงานให้กับพรรคภายใต้สภาพที่ตนเองเป็นแบบนี้
"ยืนยันไม่ใช่ความขัดแย้ง แต่เป็นเรื่องแนวทางทางการเมือง อุดมการณ์ไม่ใช่เรื่องของผลประโยชน์ การตัดสินใจดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนบุคคล ที่ผ่านมาผมเข้าสังกัดนี้เพียงเดียว ดังนั้นเมื่อวันนี้ผมไป จะไปคนเดียว ไม่มีชวนใครออกตาม” นายสิริพงศ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงบทบาทที่จะทำในพรรคภูมิใจไทย นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ตนมี 2-3 โครงการที่อยากเข้าไปทำ โดยเฉพาะการนำโมเดลบุรีรัมย์ ด้านกีฬา ไปพัฒนาและต่อยอดในพื้นที่ศรีสะเกษ ทั้งนี้ขอเสนอตัวทำคนรุ่นใหม่ให้กับพรรคภูมิใจ ส่วนการลงเลือกตัง เป็นส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยนั้น ตนพร้อม แม้การต่อสู้ในพื้นที่กับพรรคเพื่อไทยนั้นจะยาก แต่เมื่อลงสนามแล้วต้องสู้ เปรียบเหมือนนักมวยที่ลงสนามแล้วต้องสู้กัน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าหลังจากที่นายสิริพงศ์ ได้ยื่นหนังสือลาออกไม่กี่นาที นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย ฐานะผู้ชักนำนายสิริพงศ์ให้ทำงานร่วมกับพรรค ได้เดินทางเข้าพรรค เพื่อมาส่งนายสิริพงศ์
นายสมศักดิ์ กล่าวว่าตนเสียใจที่พรรคชาติไทยพัฒนาขาดบุคคลที่เป็นความหวังและอนาคตของพรรค แต่เมื่อนายสิริพงศ์ ตัดสินใจลาออกแล้ว ต้องเคารพในการตัดสินใจดังกล่าว เพราะเข้าใจว่าการเมืองคือเรื่องของอาสาสมัคร และความสมัครใจ
“ผมเสียดายที่พรรคชาติไทยพัฒนาเสียโอกาส แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า ไม่ว่าสิริพงศ์จะอยู่ที่ไหนก็ต้องสู้ อยู่ที่ไหนก็ต้องสู้ เชื่อว่าประชาชนฉลาดว่าจะเลือกคนแบบไหนที่สามารถทำประโยชน์ให้ได้” นายสมศักดิ์ กล่าว
