ดันโอ๊คคุม ทษช. แผนโยนหินลับลวงพราง

ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

เป็นไปตามคาดการณ์เมื่อที่ประชุมใหญ่ พรรคเพื่อไทยมีมติเลือกกรรมการบริหารพรรค 15 คน นำโดย พล.ต.ท. วิโรจน์ เปาอินทร์ เป็นหัวหน้าพรรค ปลอดประสพ สุรัสวดี กิตติรัตน์ ณ ระนอง เกรียง กัลป์ตินันท์ พล.ต.ท.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ เป็น รองหัวหน้าพรรค  ภูมิธรรม เวชยชัย เป็นเลขาธิการพรรค

พร้อมเห็นชอบให้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มารับตำแหน่งสำคัญเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นแม่ทัพนำธงเพื่อไทยลงสนามเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

ถือเป็นการปิดฉาก "ศึกใน" ยุติความขัดแย้งภายในพรรคเพื่อไทย และเริ่มต้นลุย "ศึกนอก" ในสถานการณ์การเมืองที่กำลังเต็มไปด้วยความ เปราะบางสำหรับพรรคเพื่อไทย

ทั้งในแง่กฎกติกาใหม่ซึ่งไม่เอื้อสำหรับพรรคที่เคยชนะได้เสียงข้างมากที่ผ่านมา จนเริ่มเห็นปรากฏการณ์การ "แก้เกม" แตกตัวออกไปตั้งพรรคใหม่ ยังไม่รวมกับข้อกังวลเรื่องกระแส "ยุบพรรค" ที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นต้องวางแผนสอง แผนสาม ไว้รับมือหากเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นจริงๆ

เริ่มตั้งแต่พรรคเพื่อธรรม ซึ่งมี สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตรองนายกฯ และอดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ว่ากันว่าเป็นเสมือนพรรคสำรองหากเกิดกรณีฉุกเฉินขึ้นมาจริงๆ จะได้มีที่รองรับไม่ให้เกิดสภาพสุญญากาศจนเป็นปัญหาในอนาคต

ในกรณีปกติพรรคเพื่อธรรมก็ยัง ทำหน้าที่ต่างคนต่างเดินไปกับพรรคเพื่อไทย เพื่อแก้ปัญหาเรื่องพรรคใหญ่จะไม่ได้เก้าอี้ สส.บัญชีรายชื่อ หากได้ สส.ระบบเขตจำนวนมาก

ที่สำคัญ พรรคเพื่อธรรมยังเป็นการเปิดรูระบายให้ได้ขยับขยายไปหาที่ทางของตัวเอง ของบรรดาว่าที่ผู้สมัคร สส.ที่แออัดอยู่ในพรรคเพื่อไทย จนหลายคนไม่มีพื้นที่จะลงแข่งในการเลือกตั้งครั้งหน้า ถึงขั้นทำให้เป็น "จุดอ่อน" ให้ถูกคู่แข่งดูดไปได้ง่าย

ไม่ต่างจากพรรคเพื่อชาติที่มีแนวคิดไม่แตกต่างกัน แต่เน้นไปที่ฐานของกลุ่มคนเสื้อแดงที่กระจัดกระจายอยู่ในเวลานี้ให้มีจุดรวมที่สามารถจะดึงคนเหล่านั้นให้กลับมารวมตัวได้อย่างมีพลังอีกครั้งหนึ่ง โดยมี จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. และยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา มาเป็นกำลังหลักที่จะช่วยทำให้การขับเคลื่อนของพรรค เพื่อธรรมเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ ในสถานการณ์การเมืองที่ยังมีความคลุมเครือในเวลานี้

อีกด้านหนึ่ง พรรคเพื่อไทยยัง มีพันธมิตรที่มีจุดยืนไปในแนวทางอุดมการณ์เดียวกันก็คือ พรรคเสรี รวมไทย ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส และพรรคประชาชาติ ของ วันมูหะมัดนอร์ มะทา

ทว่า ล่าสุดปรากฏกระแสข่าวการตั้งพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ที่ถูกมองว่าพยายามสร้างความเชื่อมโยงไปให้ถึง ทักษิณ ชินวัตร ดังจะเห็นจากชื่อย่อของพรรค ทษช. เพื่อเรียกคะแนนจากบรรดาแฟนคลับที่ยังเหนียวแน่นให้มาสนับสนุนพรรคนี้

ที่สำคัญพรรค ทษช. ยังได้วางตัวโอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายอดีตนายกฯ ทักษิณ มาลงสนามแบบเต็มตัวในตำแหน่ง รองหัวหน้าพรรค ทษช. พร้อมมีข่าววางตัว ปานปรีย์ พหิทธานุกร มาเป็นหัวหน้าพรรค

ทั้งหมดเป็นความพยายามเพื่อเตรียมหาทางออกกับสถานการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า โดยเฉพาะหากสมมติพรรค เพื่อไทยถูกยุบขึ้นมาจริงๆ ย่อมต้องมีทางออกเปิดรองรับไว้ เพื่อมิให้ทั้งว่าที่ผู้สมัคร หรือว่าที่ สส.ต้องเคว้งคว้างจนถูกดึงตัวจากฝ่ายตรงข้ามได้ง่ายในเวลานั้น

อีกทั้งแม้จะมีพรรคเพื่อชาติและพรรคเพื่อธรรม แต่ก็ใช่ว่าสองพรรคนี้จะไม่ถูกยุบหรือถูกกระทำด้วยวิธีอื่นๆ ขณะที่พรรคเพื่อชาติเองเวลานี้ก็เริ่มมองกันว่าไม่ง่ายจะเข้าไปชี้นิ้วสั่งซ้ายหันขวาหันได้ตามที่ต้องการด้วยแล้ว

การเปิดตัวเลือกใหม่ๆ จึงเป็นทั้งแผนที่สร้างความสับสนให้กับคู่แข่ง ด้วยกระจายเป้าไม่ให้ถูกติดตามได้แบบง่ายดาย อันอาจเป็นแผนลับลวงพรางที่ล่อให้คู่แข่งต้องคิดหนักขึ้น

ขณะเดียวกัน การโยนชื่อ โอ๊ค พานทองแท้ ขึ้นมาเป็นรองหัวหน้าพรรค ถือเป็นการหยั่งกระแสตอบรับจากสังคมว่าเห็นด้วยหรือไม่ ซึ่งหากกระแสตอบรับดี อาจเดินหน้าไปตามนั้น หรือหากเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามก็แค่พับแผนแล้วเลือกทางเดินใหม่

ภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทั้งนี้เป็นเรื่องของพานทองแท้ โดยพรรคไทยรักษาชาติไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่พรรคสาขา และเชื่อว่าหาก พานทองแท้ไปเป็นกรรมการบริหารพรรคดังกล่าว จะไม่ทำให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยสับสน

"ยอมรับว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยมีกระแสข่าวถูกยุบพรรค แต่ยังมั่นใจว่าที่ผ่านมาพรรคดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายอย่างถูกต้อง เชื่อว่าจะยังอยู่ต่อได้ หากจะทำลายพรรคเพื่อไทยก็ทำลายได้เพียงโครงสร้าง และร่างกาย แต่ไม่สามารถทำลาย จิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทยได้"

ไม่ต่างจาก คุณหญิงสุดารัตน์ ที่กล่าวว่า "เราก็ถูกกระทำมาหลายครั้ง เราเผชิญมาหลายครั้ง หลายยุค หลายสมัย ถามว่ากลัวไหมเราไม่กลัว เรามีทางรับมือ มั่นใจว่าสิ่งที่เขาพยายามกล่าวหานั้น เราไม่มีความผิดใดๆ ทั้งนี้ เรามีมาตรการที่จะรองรับให้พรรคพวกของเรารักษาชีวิตไปทำงานให้กับประชาชนต่อได้อย่างแน่นอน"

ปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจึงคล้ายจะเป็นแผนลับลวงพราง ที่ต้องรอดูตอนจบสุดท้ายว่าจะออกมาอย่างไร และได้ผลอย่างที่ตั้งใจหรือไม่.