posttoday

"โอ๊ค"เชื่อกติกาเลือกตั้งปูทางฟอกตัวให้เผด็จการ

25 ตุลาคม 2561

"พานทองแท้" โวยคนเขียนกติกาออกกฎช่วยทีมตัวเองชนะตั้งแต่ยังไม่แข่งขัน เชื่อกติกาเลือกตั้งเอื้อประโยชน์ให้เผด็จการฟอกตัว

"พานทองแท้" โวยคนเขียนกติกาออกกฎช่วยทีมตัวเองชนะตั้งแต่ยังไม่แข่งขัน เชื่อกติกาเลือกตั้งเอื้อประโยชน์ให้เผด็จการฟอกตัว

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์กติกาในการเลือกตั้งตามที่ระบุในรัฐธรรมนูญ โดยมีเนื้อหาดังนี้

การแข่งขันที่กรรมการเข้าข้างทีมใดทีมหนึ่ง โอกาสที่ทีมอื่นจะชนะ ย่อมเป็นไปได้ “ยาก”

การแข่งขันที่กรรมการฯ แอบส่งทีมของตัวเองมาลงแข่งขันเสียเอง โอกาสที่ทีมอื่นจะชนะ ย่อมเป็นไปได้ “ยากกว่า”

การแข่งขันที่คนเขียนกติกา ออกกฎข้อบังคับต่างๆ เพื่อช่วยให้ทีมของตัวเอง “ชนะตั้งแต่ยังไม่แข่งขัน” โอกาสที่ทีมอื่นจะพลิกกลับมาชนะได้ ย่อมเป็นไปอย่าง“ยากที่สุด”

กติกาในการเลือกตั้งของไทย ตามที่ระบุไว้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับ คสช. อ่านดูผิวเผินก็จะเห็นว่า มีการเอาเปรียบกันอยู่ในเกณฑ์ “พอจะยอมรับได้” เพราะคนไทยส่วนใหญ่อยากให้มีการเลือกตั้ง จึง “ยอมๆรับร่างฯกันไปก่อน” โดยถึงแม้ว่า พรรคที่คนส่วนใหญ่ต้องการเลือก จะได้คะแนนลดลง 30-40 เสียง แต่ก็ยังคิดว่ายังไงก็ยังเป็นที่ 1 ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอยู่ดี

แต่เมื่ออ่านให้ละเอียดอีกที จะเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้ซ่อนบทเฉพาะกาลเอาไว้ โดยกำหนดให้ 5 ปีแรกของการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ การเลือกนายกรัฐมนตรีของไทย จะต้องนำเสียงของวุฒิสมาชิกจำนวน 250 คน มาร่วมโหวตกับ ส.ส.จำนวน 500 คนด้วย ทำให้การเลือกนายกฯ จะมีคะแนนทั้งสิ้น 750 เสียง

ซึ่งวุฒิสมาชิกทั้ง 250 คนนี้ ถูกเลือกหรือมีที่มา มาจาก คสช. หรือคณะกรรมการที่ คสช.ตั้งขึ้นมาหมดทั้งสิ้น

กติกาที่เขียนอย่างแปลกประหลาดในครั้งนี้ เข้าใจได้ง่ายๆ โดยนักเขียนการ์ตูนชื่อดัง พี่เซีย ไทยรัฐ ได้เขียนรูปเปรียบเทียบเอาไว้ว่า ฐานเสียงของพรรคฯการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย เริ่มจาก 0 แต่ฐานของฝ่ายเผด็จการฯเริ่มจาก ส.ว.จำนวน 250 คน!!

จากจำนวน ส.ส.และ ส.ว. ทั้งสิ้น 750 คน ใครรวบรวมได้เกินครึ่งหนึ่งขึ้นไปจะได้เป็นนายกฯ โดยที่พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ต้องการเสียงจากประชาชนล้วนๆ ต้องเริ่มจากบัตรใบแรกที่หย่อนลงหีบเลือกตั้ง สะสมไปจนได้ ส.ส.ครบ 376 คน ขณะที่พรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการ มีคะแนนแอบตุนไว้แล้ว 250 เสียง

พูดให้ชัดเจนขึ้นมาอีกนิด ถ้าพล.อ.ประยุทธ์เกิดอยากจะสืบทอดอำนาจเป็นนายกฯต่อไป ท่านผู้นำฯ ต้องการอีกเพียง 126 เสียงเท่านั้น แต่พรรคฝ่ายประชาธิปไตย ต้องทำให้ได้เต็มจำนวนคือ 376 เสียง..!!

กติกาการเลือกตั้ง ที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญแบบนี้ จึงเป็นเพียง “พิธีกรรม” ที่จะบอกกับชาวโลกว่า “ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยแล้ว”

“แต่เป็นประชาธิปไตย ภายใต้รัฐธรรมนูญ ที่จะช่วยฟอกตัวให้นายกเผด็จการฯคนเดิม มีโอกาสกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี ตามระบอบประชาธิปไตย(แบบไทยๆ) อีกครั้งอย่างง่ายดาย” นั่นเอง