posttoday

"ปู"ส่งทนายยื่นถอนฎีกา“3 เกลอปชป.” คดีโฟร์ซีซั่น

19 ตุลาคม 2561

“ยิ่งลักษณ์” ส่งทนาย ยื่นถอนฎีกาแล้ว “3 เกลอ ปชป.” คดี ว.5โฟร์ซีซั่นรอส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา พร้อมนัดเช้า20 พ.ย.นี้ ฟังคำสั่งอีกครั้ง

“ยิ่งลักษณ์” ส่งทนาย ยื่นถอนฎีกาแล้ว “3 เกลอ ปชป.” คดี ว.5โฟร์ซีซั่นรอส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา พร้อมนัดเช้า20 พ.ย.นี้ ฟังคำสั่งอีกครั้ง

ที่ห้องพิจารณา 911 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 19 ต.ค.61 เวลา 09.30 น. ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาฎีกาคดีหมิ่นประมาท ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ หมายเลขดำ อ.630/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 โจทก์ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เสียหาย โจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง “นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต” อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อและอดีตโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ , “นายเทพไท เสนพงศ์” อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และ “นายศิริโชค โสภา” อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และทั้งสามยังเป็นผู้ดำเนินรายการ “สายล่อฟ้า” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมบลูสกาย เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 , 328 , 332 และดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติงาน ตามมาตรา 136

โดยคดีนี้ได้ยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 17 มี.ค.57 ซึ่งบรรยายพฤติการณ์จำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 10 ก.พ.55 และ 15 ก.พ.55 จำเลยทั้งสามร่วมกันจัดรายการ “สายล่อฟ้า” ออกอากาศผ่านดาวเทียมบลูสกาย มีเนื้อหาใส่ความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี ทำนองว่า โดดภารกิจการประชุมของรัฐสภาและน่าจะกระทำภารกิจ ว.5 ที่โรงแรมโฟรซีซั่นส์ ซึ่งเป็นความประพฤติที่ผิดจริยธรรมในฐานะสตีเพศที่เป็นภรรยาของสามี นอกจากนี้ยังมีภาพประกอบนำเสนอในรายการด้วย ซึ่งข้อความดังกล่าวน่าจะทำให้ผู้เสียหาย ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังจากประชาชนทั่วไป และทำให้ผู้เสียหายซึ่งกระทำการตามหน้าที่ในฐานะประมุขของฝ่ายบริหารได้รับความอับอาย และเป็นการทำลายเกียรติของผู้เสียหายในฐานะนายกรัฐมนตรี อันเป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน และในฐานะส่วนตัวที่เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป เหตุเกิดที่แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. ชั้นพิจารณาของศาล จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

โดยศาลชั้นตนมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 27 ส.ค.58  เห็นว่า การกระทำของจำเลย เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา ม.328 ให้จำคุกจำเลยทั้งสาม คนละ 1 ปี ปรับคนละ 50,000 บาท แต่พิจารณาแล้วจำเลยทั้งสาม ไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงเห็นควรให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี และให้จำเลยทั้งสาม ร่วมกันโฆษณาคำพิพากษาย่อ ในหนังสือพิมพ์รายวัน 5 ฉบับ 7 วันติดต่อกัน ขณะที่ศาลอุทธรณ์ มีตัดสินเมื่อวันที่ 20 ก.ย.59 พิพากษายืนลงโทษจำเลยทั้งสาม เนื่องจากเห็นว่า การจัดรายการของจำเลยทั้งสามมีการใช้ถ้อยคำที่มีความหมายพิเศษซึ่งจากหลักฐานที่โจทก์ร่วมนำสืบเห็นว่า ถ้อยคำของจำเลยทั้งสาม ทำให้คนทั่วไปเห็นว่าโจทก์ กระทำการที่ไม่เหมาะสมทางเพศ ส่วนที่โจทก์ร่วม ขอให้มีการลงโทษจำเลยโดยไม่รอการลงโทษนั้น ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวตัวโจทก์ร่วมเอง ก็ไม่ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุให้กระจ่าง การกระทำจำเลยต้องการให้โจทก์ร่วมออกมาชี้แจงเรื่องภารกิจในวันดังกล่าว การกระทำจำเลยจึงเป็นเจตนาดีสมควรให้รอการลงโทษ

ต่อมา “น.ส.ยิ่งลักษณ์” อดีตนายกฯ โจทก์ร่วม ขอให้พิพากษาลงโทษจำเลยสถานหนักโดยไม่รอการลงโทษจำเลย และจำเลยทั้งสามยื่นฎีกาขอให้พิพากษายกฟ้อง ส่วนอัยการโจทก์ไม่ได้ยื่นฎีกา

ขณะที่วันนี้ “นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง” และ “นายสมหมาย กู้ทรัพย์” ทนายความของอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ โจทก์ร่วมเดินทางมาศาล ส่วนจำเลยนั้น “นายเทพไท” และ “นายศิริโชค” เดินทางมาศาล แต่ “นายชวนนท์” จำเลยที่ 1 ไม่มาศาล

โดยทนายความโจทก์ร่วมซึ่งได้รับมอบอำนาจจากอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ก็ได้ยื่นคำขอถอนฎีกาของโจทก์ร่วม เนื่องจากฝ่ายจำเลยได้ขออภัยต่อโจทก์ร่วมแล้ว พร้อมแถลงด้วยวาจาขอเลื่อนนัดคดีวันนี้ออกไปก่อน ขณะที่วันนี้ “นายชวนนท์” จำเลยที่ 1 ไม่มาศาล ฝ่ายจำเลยเองก็จึงยังไม่ได้ยื่นคำขอถอนฎีกาในส่วนของจำเลยทั้งสามต่อศาล ศาลพิจารณาแล้วก็จึงเลื่อนนัดคดีวันนี้ออกไปก่อน เพื่อส่งคำขอโจทก์ร่วมที่ขอถอนฎีกาไปยังศาลฎีกาให้พิจารณา โดยศาลนัดฟังคำสั่งศาลฎีกาหรือคำพิพากษาศาลฎีกาอีกครั้งในวันที่ 20 พ.ย.นี้  เวลา 09.30 น.

ทั้งนี้  “นายสมหมาย” ทนายความของอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า วันนี้รับมอบอำนาจโจทก์ร่วม ยื่นคำร้องขอถอนฎีกา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ 2 ฝ่ายเราได้พูดคุยกันแล้วก็ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไข 2 อย่าง คือจำเลยยอมรับผิดและขอโทษกับการกระทำดังกล่าวซึ่งกลุ่มจำเลยโดยนายศิริโชคได้โพสต์ขอโทษลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ตั้งค่าการมองเห็นเป็นสาธารณะไว้ ส่วนคำฎีกาของกลุ่มจำเลยนั้นทราบว่าวันนี้ยังไม่ได้ยื่นคำขอถอนฎีกา เนื่องจากนายชวนนท์ จำเลยที่ 1 ยังไม่มาศาลยังไม่ได้เซ็นในคำร้องขอ ดังนั้นก็เป็นเรื่องที่ฝ่ายจำเลยจะไปดำเนินการให้เสร็จสิ้นต่อไปในภายหลัง อย่างไรก็ดีหากศาลฎีกาพิจารณาคำขอถอนฎีกาแล้วมีคำสั่งอนุญาต คดีก็ถือว่าจบ และผลคำพิพากษาก็ถือว่าถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ให้รอลงอาญาจำเลยทั้งสามไว้

ด้าน นายนรวิชญ์ ทนายความโจทก์ร่วม ก็กล่าวเสริมว่า ตามขั้นตอน จากนี้ศาลชั้นต้นก็จะต้องส่งคำร้องขอถอนฎีกาดังกล่าว ให้ศาลฎีกาเป็นผู้พิจารณาและมีคำสั่งต่อไป

ขณะที่ นายเทพไท จำเลยที่ 2 กล่าวว่า ไม่ทราบสาเหตุที่นายชวนนท์ ไม่ได้เดินทางมาศาลในวันนี้โดยยังไม่สามารถติดต่อได้

ด้าน นายศิริโชค จำเลยที่ 3 กล่าวว่า วันนี้โจทก์ร่วมได้ยื่นคำร้องขอถอนฎีกาแล้ว ส่วนจำเลยเองก็จะส่งคำร้องขอถอนฎีกาไปในภายหลังด้วยเช่นกัน ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้ก็ต้องรอฟังคำสั่งศาลฎีกาในวันที่ 20 พ.ย.นี้

ส่วนเรื่องการเมืองหากมีการเลือกตั้งตนพร้อมที่จะลงสมัคร ส.ส.เขต 7อยู่แล้ว ซึ่งในคดีนี้ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกโดยรอลงอาญาไว้นั้นคิดว่าจะไม่มีผลเนื่องจากความผิดที่ได้รอลงอาญาไว้เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทฯ ซึ่งในรัฐธรรมนูญฯไม่ได้ห้ามผู้ที่ถูกรอการลงโทษในนความผิดฐานหมิ่นประมาทและความผิดลหุโทษ เป็น ส.ส.หรือเป็นรัฐมนตรี

เมื่อถามว่า เพราะจะลงเล่นการเมืองใช่หรือไม่ จึงได้ไกล่เกลี่ยคดีนี้กับโจทก์ร่วมให้ถอนฎีกา

นายศิริโชค ตอบปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยว ซึ่งการจะตั้งสมมุติฐานใครก็ตั้งได้ แต่ตอนนี้ก็ต้องดูว่าศาลจะพิจารณาอย่างไร

เมื่อถามว่า วันนี้ที่ นายชวนนท์ไม่ได้มา ศาลมีคำสั่งอย่างไรบ้าง นายศิริโชค กล่าวว่า ไม่ได้มีคำสั่งอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องที่นายชวนนท์ ยังไม่ได้รับหมายเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาหรือพฤติการณ์ที่จะหลบหนี ศาลก็ไม่ได้ออกหมายจับ