posttoday

นายกฯแจงผู้นำเนเธอร์แลนด์-นอร์เวย์ย้ำเลือกตั้งกพ.62ไม่เกินพค.

19 ตุลาคม 2561

นายกรัฐมนตรี หารือ ทวิภาคี ผู้นำเนเธอร์แลนด์ -นอร์เวย์ แจงพัฒนาการการเมืองไทยตามโรดแมป ยืนยัน 4 ปีประเทศสงบ เลือกตั้ง ช้าสุดไม่เกิน พ.ค.62 ชวนลงทุนอีอีซี

นายกรัฐมนตรี หารือ ทวิภาคี  ผู้นำเนเธอร์แลนด์ -นอร์เวย์ แจงพัฒนาการการเมืองไทยตามโรดแมป ยืนยัน 4 ปีประเทศสงบ เลือกตั้ง ช้าสุดไม่เกิน พ.ค.62 ชวนลงทุนอีอีซี

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ก่อนพิธีเปิดการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 12 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ใช้เวลาพบปะหารือทวิภาคีกับผู้นำเนเธอร์แลนด์และนอร์เวย์ตามลำดับ ตามที่ผู้นำประเทศทั้งสองได้ขอหารือ

พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้ใช้โอกาสนี้ชี้แจงกับผู้นำทั้งสองถึงพัฒนาการของไทยว่า ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่าการเมืองไทยมีความก้าวหน้าเป็นลำดับ และเป็นไปตามโรดแมป โดยเฉพาะความสงบสุขในประเทศ และการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งจากสถิติตัวชี้วัดด้านต่างๆ ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้นในหลายๆ ด้าน รัฐบาลไทยมีความมุ่งมั่นตั้งใจจริงที่จะปฏิรูปประเทศให้มีเสถียรภาพทางการเมือง มีระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง และมีเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืน ขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการในระยะสุดท้ายของโรดแมปที่ประกาศไว้ คาดว่าจะสามารถจัดการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 หรืออย่างช้าไม่เกินเดือนพฤษภาคม 2562 จึงถึงเวลาแล้วที่จะร่วมกันพัฒนาความสัมพันธ์แบบมองไปข้างหน้า เพื่อมุ่งส่งเสริมความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกัน ทั้งในระดับทวิภาคี ในกรอบอนุภูมิภาค กรอบภูมิภาค และกรอบพหุภาคี

พล.ท.วีรชนกล่าวว่า นายกฯชี้แจงด้วยว่า ในปีหน้า ประเทศไทยจะเป็นประธานอาเซียนโดยจะให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความเป็นแกนกลางของอาเซียน การสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ ความเชื่อมโยง และการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และจะส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ในยุโรปให้มีบทบาทที่สร้างสรรค์ในภูมิภาคมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้ทั้ง 2 ประเทศพิจารณาเข้ามาเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาและส่งเสริมความเชื่อมโยงภายใต้นโยบาย Thailand +1 และ ACMECS โดยสามารถเข้าร่วมทั้งในรูปแบบของการสนับสนุนกองทุน หรือในรูปแบบของการจัดทำโครงการในสาขาที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งปัจจุบันแผนนี้มีหลายประเทศในเอเชีย-แปซิฟิก และยุโรป อาทิ สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสได้แสดงความสนใจจะเข้าร่วมแล้ว

พล.ท.วีรชนกล่าวว่า สำหรับประเด็นทวิภาคีในการหารือกับนายมาร์ค รึตเตอ (Mark Rutte) นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ไทยชื่นชมความเชี่ยวชาญด้านการชลประทานและการบริหารจัดการน้ำระดับโลกของเนเธอร์แลนด์โดยมีวิศวกรรมบริหารจัดการน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยไทยและเนเธอร์แลนด์ต่างเผชิญปัญหาความท้าทายที่ใกล้เคียงกันจากการเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไทยจึงสนใจเรียนรู้จากเนเธอร์แลนด์ในด้านการวางแผนระยะยาวในการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการและเป็นระบบ รวมถึงการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม นอกจากนี้ ขอเชิญชวนให้เนเธอร์แลนด์ศึกษาถึงศักยภาพและโอกาสการลงทุนในประเทศไทยที่เปิดกว้างภายใต้แผนปฏิรูปทางเศรษฐกิจครั้งประวัติศาสตร์ของไทย ตามนโยบายประเทศไทย 4.0 โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และโครงการ EEC นอกจากนี้ ไทยและเนเธอร์แลนด์จะขยายความร่วมมือในด้านโลจิสติกส์และการพัฒนาท่าเรือ ซึ่งเนเธอร์แลนด์มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะในเขต EEC

“สำหรับประเด็นการหารือทวิภาคีกับนางเออร์นำ โซลเบิร์ก (Mrs.Erna Solberg) นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรนอร์เวย์ ไทยและนอร์เวย์จะร่วมมือกันในด้านพลังงานสะอาด การกำจัดขยะในทะเล และไทยเชิญชวนลงทุนในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor-EEC) ภายใต้นโยบายประเทศไทย 4.0 ในสาขาที่นอร์เวย์สนใจ เช่น รถยนต์ไฟฟ้าและการวางโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับพลังงานสะอาด พลังงานทางเลือก โทรคมนาคม ยาและเวชกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีการกำจัดขยะ หรือเปลี่ยนขยะเป็นพลังงาน และการขนส่งทางทะเล” พล.ท.วีรชนกล่าว

นายกฯแจงผู้นำเนเธอร์แลนด์-นอร์เวย์ย้ำเลือกตั้งกพ.62ไม่เกินพค.