posttoday

"สุวิทย์"เปิดตัว "สถาบันปัญญาประชารัฐ" ให้ประชาชนมีส่วนร่วมกำหนดนโยบาย

17 ตุลาคม 2561

พรรคพลังประชารัฐเปิดตัว "สถาบันปัญญาประชารัฐ" พาประเทศทะยานไปข้างหน้าด้วยคนรุ่นใหม่ เปิดช่องประชาชนมีส่วนร่วมกำหนดนโยบาย

พรรคพลังประชารัฐเปิดตัว "สถาบันปัญญาประชารัฐ" พาประเทศทะยานไปข้างหน้าด้วยคนรุ่นใหม่ เปิดช่องประชาชนมีส่วนร่วมกำหนดนโยบาย

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะว่าที่รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้แถลงข่าวการจัดตั้ง “สถาบันปัญญาประชารัฐ” พร้อมอธิบายความเป็นมาเกิดจากในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยถือเป็นการตั้งลำใหม่จากปัญหาความขัดแย้ง จนรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามา ทำให้เกิดเสถียรภาพทางการเมือง สะท้อนมาให้เห็นจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี และเรียกความเชื่อมั่นจากประชาคมโลกได้

ทั้งนี้ จะทำอย่างไรให้ประเทศไทยทะยานไปข้างหน้าได้ ดังนั้น คิดว่าถึงเวลาจำเป็นต้องมีพรรคการเมืองให้เป็นไปตามกติกาประชาธิปไตย โดยร่วมนำประเทศไทย ทะยานไปด้วยกัน ใน 3 หลักการ โดยหลักการแรก 3 หลักการพลังประชารัฐ 1.ทำพรรคการเมืองใหม่ที่เต็มไปด้วยคนหนุ่มสาวที่มีความคิดอ่านทางการเมือง เป็นการเมืองตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนโดยไม่มานั่งคิดเองทำเอง 2.เป็นการเมืองจากฐานราก และ3.เป็นการเมืองมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน

หลักการต่อมา 3 ฟันเฟืองขับเคลื่อนพลังประชารัฐ 1.กลไกการขับเคลื่อนการเมืองไทย ต้องปฏิรูปการเมือง เกิดจากปัญญา ความคิด และความมุ่งมั่น แต่ต้องมาจากมหาชน 2.การเมืองยุคใหม่ต้องเริ่มจากปัญญาประชารัฐ เพื่อไปขับเคลื่อนนโยบายประชารัฐ และ 3.ให้ประชาชนมีส่วนร่วม เพื่อเกิดมาเป็นพลังประชารัฐ ในการขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบ

หลักการสุดท้าย 3 ภารกิจสถาบันปัญญาประชารัฐ ประกอบด้วย 1.พัฒนารูปแบบปฏิสัมพันธ์ที่เกิดกว้าง ผนึกกำลังทุกภาคส่วน ทั้ง (เวทีสาธารณะและเวทีโลกเสมือน) 2.สร้างผู้นำ “GAME CHANGER” ให้เกิดขึ้นในทุกมิติ เพื่อเปลี่ยนแปลงทั้งภาคเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และอื่นๆ และ 3.ร่วมกำหนดนโยบายภาคประชาชน พัฒนานวัตกรรมเชิงนโยบาย นิยามอนาคตประเทศไทยร่วมกัน ฉะนั้น ใช้เวทีสถาบันนี้เพื่อร่วมกำหนดนโยบาย และนวัตกรรมเชิงนโยบาย

อย่างไรก็ตาม หลักสูตร “ปัญญาประชารัฐ” เป็นหลักสูตรจัดทำมาเพื่อตอบโจทย์ประเทศ ไม่จำเป็นต้องเป็นการเมือง หรือคนรุ่นใดรุ่นหนึ่ง ต้องทำมาเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันประสบการณ์ ระหว่างคนมีโอกาสกำหนดนโยบาย ผู้นำภาคประชาสังคม นักธุรกิจ นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เพื่อช่วยกันขบคิด สร้างนวัตกรรมทางการเมือง สร้างนโยบาย

“5ปีหลังจากนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศไทย ในการเมืองแบบใหม่ เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง และทำอย่างไรให้เป็นพลเมืองตื่นรู้ ซึ่งสถาบันนี้จะคอยปลุกเร้าให้ศักยภาพของประชาชนออกมา จึงจะทำให้ประเทศไทยตื่นตัว 5 ปีจากนี้ถึงเวลาทะยานไปข้างหน้า ผนึกกำลังทุกภาคส่วน และหลุดกรอบความคิดแบบเดิมๆ ด้วยคนรุ่นใหม่ เปลี่ยนแปลงทุกด้าน โดยเฉพาะเทคโนโลยี พลวัตรโลก และไทย มาผสมอย่างลงตัว เพื่อตอบโจทย์ประชาชน”ว่าที่รองหัวหน้าพรรค ระบุ

ขณะเดียวกัน ผลลัพธ์ที่คาดหวังโดยเฉพาะเป้าหมาย คือ ให้ประชาชนได้เข้าใจพลวัต ซึ่งสถาบันนี้จะทำให้ประชาชนเข้าใจการเปลี่ยนแปลงสังคมไทย สังคมโลกแท้จริง อย่างรอบด้าน เท่าทัน เพื่อกำหนดอนาคตประเทศ อีกทั้ง เข้าถึงปัญหาให้คนที่สนใจการเมืองและอยากอยู่ในรูปแบบสมาชิกหรือไม่ก็ตาม เข้ามาช่วยกันขบคิดปัญหา และเอาองค์ความรู้ต่างๆมาช่วยกัน ในการพัฒนาขับเคลื่อน โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นสถาบันสร้างเครือข่าย แต่เป็นการสร้างพลังเพื่อความเปลี่ยนแปลง เอาประเด็นปัญหามาเป็นวาระขับเคลื่อน หรือพันธะประชารัฐ ในการเปลี่ยนผ่านประเทศไทย