posttoday

อัยการแจงสั่งฟ้อง "มานพ ทิวารี" คดีฟอกเงินพร้อมโอ๊ค แต่ผู้ต้องหาไม่มาตามนัด

16 ตุลาคม 2561

อัยการออกแถลงการณ์มีคำสั่งฟ้อง"มานพ ทิวารี"และพวกคดีฟอกเงินแบงค์กรุงไทยพร้อม "พานทองแท้" แต่ผู้ต้องหาไม่มาตามนัด

อัยการออกแถลงการณ์มีคำสั่งฟ้อง"มานพ ทิวารี"และพวกคดีฟอกเงินแบงค์กรุงไทยพร้อม "พานทองแท้" แต่ผู้ต้องหาไม่มาตามนัด

เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีคณะทำงานของพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษยังไม่ฟ้องนายมานพ ทิวารี ผู้ต้องหา ข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินการอนุมัติสินเชื่อของธนาคารกรุงไทยโดยมิชอบว่า นายมานพ เป็นผู้ต้องหากลุ่มผู้รับโอนเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ซึ่งเมื่อวันที่ 10ต.ค.ที่ผ่านมาพนักงานอัยการได้มีความเห็นและคำสั่งฟ้องนายมานพ และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน ผู้ต้องหาที่ 2 และนายวันชัย หงษ์เหิน ผู้ต้องหาที่ 3 แล้ว

แต่ทั้งหมดไม่มาพบพนักงานอัยการตามนัด พนักงานอัยการจึงไม่สามารถฟ้องบุคคลทั้ง 3 ในวันดังกล่าวได้

ทั้งนี้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 สำนักงานคดีพิเศษได้แจ้งให้นายมานพ ทิวารี นางกาญจนาภา และนายวันชัยมาพบพนักงานอัยการเพื่อฟ้องต่อศาลในวันที่ 31 ต.ค.นี้ เวลา 10.00 น.

คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำพิพากษาเกี่ยวกับกรณีมีการอนุมัติสินเชื่อของธนาคารกรุงไทยโดยมิชอบและมีคำพิพากษาลงโทษจำคุก นายวิชัย กฤษดาธานนท์ กับพวก และ ผู้บริหารธนาคารกรุงไทยจำนวนหลายคน ซึ่งนายวิชัย ทำธุรกรรมกับผู้รับโอนเงินหลายรายเกี่ยวกับคดีการสั่งฟ้องกลุ่มผู้ต้องหาในข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินดังกล่าวได้แยกผู้ต้องหาออกเป็น 2 กลุ่ม คือ

1.กลุ่มผู้โอนเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด โดยเมื่อวันที่ 1มีนาคม 2560 พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งสำนวนการสอบสวนกล่าวหานายวิชัย กฤษดาธานนท์ กับพวก รวม 13 คน กระทำความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงินเกี่ยวกับการโอนและรับโอนธุรกรรมทางการเงินที่ได้จากการอนุมัติสินเชื่อธนาคารกรุงไทยโดยมิชอบจำนวนหลายรายการ

ซึ่งพนักงานอัยการสั่งฟ้องนายวิชัย กับพวก ผู้โอน และฟ้องต่อศาลแล้วโดยผู้ต้องหาในกลุ่มนี้มี นายมานพ ทิวารี เป็นผู้ต้อง หารวมอยู่ด้วย แต่เนื่องจากข้อเท็จจริงทางคดีพบว่า นายมานพ อยู่ในกลุ่มผู้รับโอน พนักงานอัยการจึงมีคำสั่งให้รวมการพิจารณาสั่งของผู้ต้องหารายนี้ไปพร้อมกับกลุ่มผู้รับโอน

2. กลุ่มผู้รับโอนเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ประกอบด้วยนางเกศินี จิปิภพ ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวกรวม 4 คน ได้แก่ นางเกศินี นางกาญจนภา หงษ์เหิน ผู้ต้องหาที่ 2 นายวันชัย หงษ์เหิน ผู้ต้องหาที่ 3 และนายพานทองแท้ ชินวัตร ผู้ต้องหาที่ 4 และนายมานพ ทิวารี ผู้ต้องหา ที่แยกมาจากกลุ่มผู้โอนโดยผู้ต้องหาทุกคนถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงินเกี่ยวกับการรับโอนธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวพันกับคดีพิเศษโดยดีเอสไอได้ส่งสำนวนมาตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. 2561

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาอัยการ มีคำสั่งฟ้องนายพานทองแท้ฐานสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงินกรณีเช็ค 10 ล้านบาท ส่วนกรณีเช็ค 26ล้านบาท มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นางเกศินี จิปิภพ ผู้ต้องหาที่ 1 นายพานทองแท้ ชินวัตร ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงินจำนวน 26 ล้านบาท แต่สั่งฟ้องนางกาญจนาภา และนายวันชัย หงษ์เหิน ฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน