posttoday

ภูมิใจไทยปัดหนุนบิ๊กตู่นั่งนายกฯต่อเพราะหวังได้งานรัฐ

10 ตุลาคม 2561

ภูมิใจไทยปัดหนุนบิ๊กตู่นั่งนายกฯอีกสมัยเพราะได้งานจากรัฐ ย้ำประมูลมีแพ้-ชนะทุกรัฐบาล ย้ำตัดสินใจร่วมกับใครจะฟังเสียงประชาชน

ภูมิใจไทยปัดหนุนบิ๊กตู่นั่งนายกฯอีกสมัยเพราะได้งานจากรัฐ ย้ำประมูลมีแพ้-ชนะทุกรัฐบาล ย้ำตัดสินใจร่วมกับใครจะฟังเสียงประชาชน

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า กรณที่มีการแชร์ข้อมูลระบุว่าพรรคภูมิใจไทยเตรียมจับมือกับบางพรรคการเมืองสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง พร้อมกล่าวหาว่า บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ และได้รับผลประโยชน์จากรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยพรรคขอยืนยันจะเดินทางสายกลาง และการตัดสินใจร่วมกับฝ่ายไหน จะเกิดขึ้นหลังจากทราบผลเลือกตั้งเท่านั้น และพรรคจะฟังเสียงประชาชนก่อนเป็นลำดับแรก

ทั้งนี้ เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นการดิสเครดิตทางการเมือง เพราะพรรคภูมิใจไทยกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น จากการลงพื้นที่ฟังปัญหาของประชาชนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บางกลุ่ม บางพรรค ต้องเร่งเตะสกัดขัดขา ส่วนข้อกล่าวหาดังกล่าว ขออธิบายว่า บริษัท ซิโน-ไทย เป็นบริษัทมหาชน นายอนุทินเป็นเพียงแค่ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งเท่านั้น การทำงาน มีคณะกรรมการบริหาร ดูแลอยู่ ไม่เกี่ยวกับนายอนุทิน ซึ่งมีฐานะแค่หนึ่งในผู้ถือหุ้นในตลาดหุ้นเท่านั้น

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาบริษัทเข้าร่วมประมูลงานมาในทุกยุคทุกสมัย ประมูลชนะบ้าง แพ้บ้าง แต่ก็มีงานในทุกรัฐบาล ที่ผ่านมาการประมูลเป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และหากมีการเอื้อผลประโยชน์ เชื่อว่าประชาชน และคู่แข่งในการประมูล ต้องยื่นตรวจสอบแล้ว
ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคกล่าวว่า พรรคกำลังเตรียมดำเนินการทางกฎหมายกับขบวนการทำลายภาพลักษณ์ของพรรค และขอยืนยันจุดยืนเรื่องความเป็นกลาง เพื่อรอฟังเสียงของประชาชนหลังเลือกตั้ง ก่อนตัดสินใจ

ทั้งนี้ นายอนุทิน เป็นเพียงหุ้นส่วนหนึ่งในบริษัท ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจแต่อย่างใด และบริษัท ซิโน-ไทยฯ เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ มีข้อผูกพันตามกฎธรรมาภิบาล หากย้อนกลับไป จะพบว่า ที่ผ่านมาบริษัทซิโน-ไทยฯ ได้เข้าร่วมประมูลมาในทุกรัฐบาล มีทั้งชนะ และแพ้การประมูล แต่ก็ได้งานมาทุกยุคทุกสมัย เพราะประมูลชนะอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตรงนี้ต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งนี้ หากมีการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทฯ ดังข้อกล่าวหา เชื่อได้ว่า ต้องมีการฟ้องร้องเพราะบริษัทคู่แข่ง ไม่ยอมแน่นอน เช่นเดียวกับสังคม ต้องร้องให้ตรวจสอบแน่นอน

“หากฝ่ายไหนไม่สบายใจ มีองค์กรตรวจสอบมากมายที่พร้อมรับเรื่องไปดูแล ถ้าจริงใจควรดำเนินการผ่านช่องทางนั้น มากกว่าการปล่อยข่าวทำให้เกิดความเสียหาย จากนี้ พรรคพร้อมดำเนินการทางกฎหมายกับฝ่ายบิดเบือนทำลายภาพลักษณ์ของพรรคอย่างแน่นอน” นายศุภชัย กล่าว